นี่ถือเป็นภาคต่อที่ดูๆ ไปแล้วก็คล้ายรีเมคอยู่เหมือนกัน เพราะเรื่องราวคล้ายๆ กับภาคแรก แต่จะมีรายละเอียดต่างกันหน่อย 

เรื่องว่าด้วย วัยรุ่น 2 คนคือ แอชลี่ย์ (Bruce Campbell) กับแฟนสาวที่ได้ไปพักผ่อนยังบ้านร้างที่ไกลผู้คน แต่แล้วพวกเขาก็ดันไปปลุกผีโดยไม่ได้ตั้งใจ (อีกแล้ว) จากนั้นไม่นานก็มีคนตามมาสมทบที่บ้านหลังนั้นอีก เอ้า ทีนี้ล่ะได้เจอเรื่องสยองกันถ้วนหน้าแน่นอน

ที่มาที่ไปของภาคนี้นั้นก็เริ่มตั้งแต่ตอนถ่ายทำภาคแรกครับ เมื่อผู้อำนวยการสร้าง Irvin Shapiro เห็นแววความสำเร็จของหนังเลยแนะนำให้ผู้กำกับ Sam Raimi ลองคิดไอเดียสำหรับการทำภาคต่อดู เขาก็เลยลองสุมหัวกับมือเขียนบท Sheldon Lettich จนได้ไอเดียว่าเรื่องของภาคต่อนั้นจะว่าด้วย แอช ตัวเอกของเรื่องได้ทะลุเวลาไปยังยุคกลาง แล้วก็ต้องสู้รบปรบมือกับปีศาจที่อาละวาดอยู่ที่นั่น

แล้วไม่ได้มาแค่ไอเดียนะครับ Raimi น่ะได้ทำโปสเตอร์ตัวอย่างของหนังออกมาแล้ว พร้อมตั้งชื่อว่า Evil Dead II: Evil Dead & the Army of Darkness แต่แล้วโครงการก็มีอันต้องชะงักเมื่อพวกเขามีปัญหาเรื่องทุนสร้างครับ Raimi เลยคิดว่าจะลองทำหนังสักเรื่องเพื่อเพิ่มทุนเสียก่อนน่าจะดี อันนำมาสู่การสร้างผลงานเรื่อง Crimewave

แต่ทว่าอนิจจา หนัง Crimewave ไม่ทำเงินครับ จริงๆ คือขาดทุนเลยแหละ เลยกลายเป็นว่าตอนนี้แม้แต่ทุนจะเอามาทำ Evil Dead II ก็ไม่เหลือ และท่ามกลางสถานการณ์อันมืดมนนั้นก็ได้มีชายผู้หนึ่งก้าวเข้ามา พร้อมมอบแสงสว่างให้กับ Raimi

ชายคนนั้นมีชื่อว่า Stephen King

ปรากฏว่า King นี่เป็นแฟนตัวยงของ Evil Dead ภาคแรก ครับ เขานิยามหนังว่ามันคือ “รุ้งดำแห่งหนังสยอง” (A Black Rainbow of Horror) และยกให้ Raimi เป็นอัจฉริยะ ทำให้พอ King รู้ว่า Raimi กำลังประสบปัญหาเรื่องทุนในการทำ Evil Dead ภาคต่อ เขาเลยหาทางออกให้ ซึ่งพอดีตอนนั้น King กำลังทำหนัง Maximum Overdrive โดยมี Dino De Laurentiis เป็นผู้อำนวยการสร้าง เขาเลยจัดแจงนัด Laurentiis มาดินเนอร์ด้วยกัน แล้วก็จูงใจ Laurentiis จนในที่สุดเขาก็ยอมเป็นนายทุนให้กับ Evil Dead II

แต่พอ Raimi บอก Laurentiis ว่าพล็อตเรื่องภาคต่อเหตุจะไปเกิดในยุคกลาง Laurentiis ก็ไม่เห็นด้วยครับ เขาชี้ชัดมาเลยว่าเขาจะให้ทุนก็ต่อเมื่อ Evil Dead II มีฉากหลังเป็นกระท่อมแบบภาคแรกเท่านั้น – เนื่องจากในอิตาลีนั้น Evil Dead ภาคแรก ดังมาก ดังจนก่อให้เกิดหนังเลียนแบบและหนังภาคต่อแบบไม่เป็นทางการตามออกมาเต็มไปหมด

เมื่อเป็นเช่นนี้ Raimi เลยจำยอมครับ ยอมทำตามที่ Laurentiis ขอ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ Evil Dead II มีความเหมือนหนังภาคแรกในหลายๆ อย่าง แต่ขณะเดียวกัน เพื่อไม่ให้หนังมันเหมือนกันเกินไปก็เลยมีการเปลี่ยนรายละเอียดของพล็อต ตามด้วยใส่อะไรฮาๆ ลงไปแบบเต็มพิกัด หนังเลยออกมาโหดมันฮาอย่างที่เราเห็นนั่นแหละครับ – ส่วนไอเดียเกี่ยวกับยุคกลางนั้นก็เลยถูกเก็บไว้สำหรับเป็นพล็อตของภาคต่อไปแทน

และเกร็ดที่อยากบันทึกไว้ก็คือ ด้วยความที่ Raimi รู้สึกขอบคุณที่ King ช่วยเหลือเขาเอาไว้ในครั้งนี้ เขาเลยตอบแทนด้วยการมาร่วมปรากฏตัวในมินิซีรี่ส์ The Stand (1994) และ The Shining (1997) ในเวลาต่อมาครับ

เป็นภาคที่ไม่ต้องพูดอะไรมากครับ เพราะสนุกมาก เพลินมาก สยองเลือดสาด แต่ก็แทรกอารมณ์ขันและอุดมไปด้วยความตื่นเต้น ยิ่งไปกว่านั้นหนังยังมีรายละเอียดน่าสนใจอีกมากมาย มีลูกเล่นเยอะขึ้นกว่าภาคก่อนด้วยครับ เรียกว่านี่ไม่ใช่หนังสยองปนฮาเท่านั้น แต่ยังผสมความเป็นแฟนตาซีใส่ลงไปด้วย และว่ากันว่า Bruce Campbell เคยออกมาบอกว่า เขาชอบภาคนี้ที่สุดในบรรดา 3 ภาคที่เขาแสดง

เป็นหนังสยองที่มันส์มากๆ ในระดับที่ห้ามพลาดกันเลยล่ะครับ

สามดาวครับ

(8/10)