บหนังผจญภัยสไตล์เจาะเวลาหาอดีต เมื่อ ศจ. จอห์นสตัน (Billy Connolly) นักโบราณคดีท่านหนึ่งได้เดินทางข้ามเวลาไปยังช่วงศตวรรษที่ 14 แล้วกลับมาไม่ได้ ทำให้คริส (Paul Walker) ลูกชายของเขาและเพื่อนนักโบราณคดีอีกกลุ่มนึงตัดสินใจเดินทางข้ามเวลาไปช่วย ศจ. แต่ก็แน่ล่ะครับ พอทุกคนเจาะเวลาไปเท่านั้นล่ะ ก็เป็นเรื่องเลยเพราะยุคที่พวกเขาไปนั้น มันกำลังเกิดสงครามอังกฤษ – ฝรั่งเศสกันอยู่ทีเดียว ซึ่งก็อย่าว่าแต่ตามหาศจ.เลย เอาแค่จะทำไงให้ตัวเองรอดไปจากคมดาบของอัศวินนี่ก็ไม่รู้จะไหวมั้ยแล้วล่ะครับ

หนังล่มที่อเมริกาครับ และไม่ได้ฉายในบ้านเราด้วยจู่ๆ ก็ลงเป็นแผ่นเลย ซึ่งก็น่าจะเดาได้ว่าหนังอาจไม่โอนัก แต่กลายเป็นว่าผมโอเคกับมันแฮะ

อย่างแรกคือมันเป็นไซไฟที่ติดดิน คือไม่ได้เน้นจินตนาการหวือหวาที่ดูแล้วไกลตัว แต่มันดูแล้วมีความเป็นไปได้จริงๆ ทั้งการเจาะเวลา เครื่องมือต่างๆมันดูใกล้ตัวและสัมผัสได้ อาวุธไฮเทคอะไรก็ไม่มี ดังนั้นพวกพระเอกเวลาจะเอาตัวรอดนี่ก็ต้องอาศัยสมองและสองมือล้วนๆ เลย การเดินเรื่องก็น่าติดตาม ไม่ค่อยมีอืดนะครับ เดินหน้าไปเรื่อยๆ เจออะไรไปตลอด ซึ่งนี่ก็เป็นสไตล์ของผู้กำกับ Richard Donner แห่ง Lethal Weapon ทั้ง 4 ภาค อยู่แล้ว ซึ่งเผอิญผมชอบสไตล์นี้ซะด้วยเลยสนุกกันไป

นักแสดงก็ดีครับ คนที่เด่นและเข้าท่ามากๆ คือ Gerard Butler ที่มาเล่นเป็นเพื่อนพระเอก พี่แกเท่ห์ฉลาดและส่อแววเจ้าชู้แบบสุดๆ เวลาจีบสาวนี่ก็เต็มๆ ล่ะครับ คิดดู อยู่ในอดีตแบบจะรอดหรือไม่รอดก็ไม่รู้ แต่พี่เขายังไม่วายอีก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ล่ะครับว่าผู้ชายน่ะนะ หน้าสิ่วหน้าขวานก็ต้องขอมองหน้าหวานๆ เอาไว้ก่อน 555 คนอื่นๆ ก็เรื่อยๆ ครับ อีกคนที่แม้จะโผล่น้อยแต่ก็เล่นได้อย่างถึงกึ๋นก็คือพี่ David Thewlis ก็เจ้าเดียวกับที่เล่นเป็นลูปินใน Harry Potter นั่นแหละฮะ มาเรื่องนี้พี่แกเห็นแก่ตัวแบบสุดยอด จนคุณจะลืมภาพของ ศจ. ลูปินที่น่านับถือไปเลยล่ะฮะ

งานด้าน Effect ก็ดี แต่หนังมันไม่ค่อยได้เล่น Effect น่ะครับ มันเป็นหนังผจญภัยมากกว่า ดูเอามันส์ แม้ว่าหลายๆอย่างมันจะบังเอิญหรือดูยัดเยียดเกินไปก็ตาม แต่มันก็ดูเพื่อความบันเทิงได้น่ะ ดนตรีของ Brian Tyler (ซึ่งจริงๆแล้ว ได้ Jerry Goldsmith ผู้ล่วงลับมาทำสกอร์นำร่องไว้ให้) ก็ดีครับ เร้าอารมณ์ดีมากๆ

หนังสร้างจากนิยายของ Michael Crichton แห่ง Jurassic Park ครับ ตัวหนังผมว่าทำได้โอเคนะ แม้จะตามสูตรเอามากๆ ก็ตาม แต่มันก็ดูเพลินดี แล้วหนังยังกัดความโหดในยุคนั้นได้อย่างดี ประเภทนึกจะฆ่าก็ฆ่าไม่ทันได้ตั้งตัว และคนที่ลงมือฆ่านี่ไม่ใช่คนป่าคนเถื่อนนะครับ แต่เป็นอัศวินชั้นสูงของเมืองอันสูงศักดิ์ ดังนั้นดูแล้วตระหนักเลยว่า คนร้ายกาจๆ นั้นมีได้ทุกแห่งหน ไม่ว่าจะอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต – ไม่ว่าจะในดินแดนบ้านป่าเมืองเถื่อน หรือดินแดนที่ได้ชื่อว่าเจริญศิวิไลซ์

ที่บอกว่าหนังล่มนั้นก็คือล่มแรงๆ เลยล่ะครับ หนังลงทุนราว $80 ล้าน แต่ทำเงินในอเมริกาไปเพียง $19 ล้านเท่านั้น หรือถ้ารวมทั่วโลกก็เพิ่งจะ $43 ล้าน ติดตัวแดงเถือกๆ กันเลยทีเดียว

แต่กระนั้นผมก็ว่าหนังเพลินๆ ดีครับ อาจไม่ได้ดีเด่อะไรมากมาย แต่ดูเอามันส์ได้แบบเรื่อยๆ

สองดาวกว่าๆ ครับ

(6.5/10)