ภาคต่อที่ห่างจากภาคแรกถึง 10 ปี ซึ่งจริงๆ แล้วหลังจากภาคแรกดังก็เกือบๆ จะมีเวอร์ชั่นซีรี่ส์ตามออกมาครับ โดยเปลี่ยนนักแสดงยกชุด แต่พอทำตอนไพลอตออกมาแล้วกลับไม่ได้ไปต่อ ต้องรอจนกระทั่งทีมงานชุดเดิมกลับมาทำต่อเป็นเวอร์ชั่นหนังนี่แหละ
ภาคต่อที่ห่างจากภาคแรกถึง 10 ปี ซึ่งจริงๆ แล้วหลังจากภาคแรกดังก็เกือบๆ จะมีเวอร์ชั่นซีรี่ส์ตามออกมาครับ โดยเปลี่ยนนักแสดงยกชุด แต่พอทำตอนไพลอตออกมาแล้วกลับไม่ได้ไปต่อ ต้องรอจนกระทั่งทีมงานชุดเดิมกลับมาทำต่อเป็นเวอร์ชั่นหนังนี่แหละ
ผมนี่ทำท่าว่าจะเป็นแฟนผลงานของ Zoey Deutch ไปแล้วครับ เพราะคอยตามดูหนังของเธอตลอด อย่างเรื่องนี้ก็เอามาดูเพราะเห็นเธอแสดงนำนี่แหละ
ภรรยาผมพูดขึ้นหลังดูหนังเรื่องนี้จบว่า “เราไม่มีโอกาสที่จะทำให้วันไหนดีขึ้นได้ นอกจากวันนี้… ว่าอย่างนั้นมั้ย?” แล้วผมก็พยักหน้าตอบรับครับ ^_^ (บอกก่อนครับ บทความนี้ยาว เพราะหนังมันถูกจริตมากมาย)
ผมยังไม่เคยอ่านฉบับนิยายของ Vampire Academy ครับ เลยไม่รู้ว่ามันมีความต่างกันมาน้อยแค่ไหน แต่ถ้าถามผมเฉพาะดูจากตัวหนังล่ะก็ ผมว่าหนังดูได้เพลินๆ อยู่ครับ ^_^
เป็นหนังอีกเรื่องที่จริงๆ ดูน่าสนใจนะครับ เอา Robert De Niro มาเจอกับ Zac Efron เล่นเป็นปู่หลานกัน โดยพล็อตนี่ก็ออกแนว Road Movie นิดๆ ที่เอื้อให้เกิดเรื่องราวแบบปู่สอนเรื่องราวชีวิตให้กับหลานได้เลยล่ะ
ว่าตามตรงแล้วหนังเรื่องนี้เป็นการเอาสูตรของ Meet the Parents มาใช้งานใหม่โดยปรับสลับองค์ประกอบบางอย่างให้มันต่างออกไปนิดนึง แต่หากว่ากันโดยรวมแล้ว มันก็สูตรเดียวกันครับ
อีกหนึ่งหนังที่น่าสนใจครับ พล็อตมาแนว Coming of Age แบบเต็มๆ ซึ่งก็ถือเป็นแนวโปรดอย่างหนึ่งของผมล่ะครับ ครั้นพอดูแล้วก็ถือว่าดูได้เพลินๆ ครับ แม้จะไม่ได้เจ๋งอย่างที่หวังไว้ก็เถอะ แต่อย่างน้อยหนังก็มาพร้อมตอนจบที่ถือว่าน่าจดจำไม่ใช่น้อยทีเดียว
เรื่องนี้ก็เข้าทางผมอีกแล้วครับ หนังสไตล์ย้อนยุค ถ่ายทอดแง่มุมชีวิตวัยรุ่นวัยเรียน และกลั้วอารมณ์แบบหนัง Coming of Age เข้าไปอีกหน่อย เป็นอะไรที่ผมชอบอยู่แล้ว ไหนจะชื่อผู้กำกับ Richard Linklater (ไตรภาค Before Sunrise และ Boyhood) เรื่องนี้เลยเป็นหนังน่าดูภาคบังคับสำหรับผมครับ