
ก่อนดูนี่พยายามลดความคาดหวังไปพอสมควรครับ แต่ยอมรับว่าพอรู้ว่า เจ้าเหวินจั๋ว กลับมารับบทหวงเฟยหงอีกครั้ง มันก็อดไม่ได้ที่จะแอบหวังอยู่หน่อยๆ
ก่อนดูนี่พยายามลดความคาดหวังไปพอสมควรครับ แต่ยอมรับว่าพอรู้ว่า เจ้าเหวินจั๋ว กลับมารับบทหวงเฟยหงอีกครั้ง มันก็อดไม่ได้ที่จะแอบหวังอยู่หน่อยๆ
หลังจากหลี่เหลียนเจี๋ยและฉีเคอะ ไม่ลงรอยกันในการทำงาน ทำให้ต่างคนต่างออกมาทำหวงเฟยหงในแบบของตนเอง สำหรับหลี่เหลียนเจี๋ยก็หันไปร่วมมือกับผู้กำกับ หวังจิ้ง และยอดฝีมือคิวบู๊ หยวนหวู่ปิงช่วยกันทำตำนานใหม่ของหวงเฟยหงที่ออกมาในแนวบู๊ผสมฮา
คราวนี้อาจารย์หวงเฟยหง (หลี่เหลียนเจี๋ย) ต้องไปผจญภัยยังดินแดนตะวันตกร่วมกับน้าสิบสาม (กวนจื่อหลิน) และตีนผีเจ็ด (Xin Xin Xiong) ครับ
เรื่องต่อจากภาคที่แล้วครับ เมื่อกรุงปักกิ่งแตกหลังจากการบุกยึดของชาวตะวันตก ทำให้หวงเฟยหง (เจ้าเหวินจั๋ว) และ หวงฉีอิงบิดาของอาจารย์หวงต้องเดินทางลี้ภัยออกมา แล้วมุ่งหน้ากลับเป่าจือหลิน
เรื่องราวต่อเนื่องจากตอนจบภาคก่อน เมื่อหวงเฟยหง (เจ้าเหวินจั๋ว) ชนะศึกเชิดสิงโตแต่ไม่ยอมรับป้ายทองเพื่อเป็นการเตือนสติทางการว่ายามที่บ้านเมืองกำลังปั่นป่วนนี้สมควรกระทำสิ่งอื่นมากกว่าการจัดงานแข่งเชิดสิงโต
คราวนี้เรื่องไปเกิดที่กรุงปักกิ่งครับ หวงเฟยหง (หลี่เหลียนเจี๋ย) เหลียงควน (ม่อเส้าชง) และน้าสิบสาม (กวนจื่อหลืน) เดินทางไปเยี่ยมบิดาของอาจารย์หวง นามว่าหวงฉีอิง (Shun Lau) เพื่อแจ้งให้บิดาทราบว่าเขาและน้าสิบสามนั้น มีใจให้กัน แต่ก็เข้าอีหรอบเดิมครับ ที่เมื่ออาจารย์หวงแวะไปที่ไหน ที่นั่นก็จะมีเหตุความไม่สงบให้ต้องแก้ไขเสมอ
โดยส่วนตัวแล้ว ผมรู้สึกว่าบ้านเรา (โดยเฉพาะระยะหลังๆ นี้) ควรเอาหวงเฟยหงภาคนี้มาดูกันเยอะๆครับ เพราะหนังมันสะท้อนอะไรหลายอย่าง ชวนให้ฉุกคิดในหลายประเด็น
ภาคแรกของหนังกังฟูระดับตำนานครับ