การเดินทางบนฟ้าตอนนี้จะเริ่มกันที่เมืองบูยง (Bouillon) ตรงหัวมุมตะวันออกเฉียงใต้ของเบลเยี่ยม เลาะไปตามแม่น้ำเซมัวส์ (Semois River) ผ่านป่าอาร์แดนน์ (Ardenne Forest) แล้วเราจะเจอเมืองดินันท์ (Dinant) ที่ครั้งหนึ่งขึ้นชื่อในเรื่องเบียร์ที่หมักโดยนักบวช เมือชาร์เลอรัว (Charleroi) ที่เคยเป็นเมืองอุตสาหกรรมในช่วงศตวรรษที่ 19 จากนั้นเราจะได้พบกับวอเตอร์ลู (Waterloo) หนึ่งในสมรภูมิรบที่มีชื่อที่สุดในโลก ก่อนจะสิ้นสุดการเดินทางกันที่บรัสเซลล์ (Brussels) เมืองหลวงของเบลเยี่ยม
เริ่มกันที่ป่าไม้ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเยอรมนี จากไบรอยท์ (Bayreuth) แล้วเราจะล่องต่อไปยังเมืองนูเรมเบิร์ก (Nuremberg) จากนั้นก็เลาะเลียบแม่น้ำดานูบ (Danube) ไปยังวัลฮัลลา (Walhalla) แล้วก็ล่องไปยังหมู่บ้านที่เงียบสงบอย่างมาร์คทล์ (Marktl) ก่อนจะปิดท้ายกันด้วยเมืองมิวนิค (Munich)
การเดินทาของเราในตอนนี้งเริ่มต้นจากทิศตะวันออกเฉียงใต้ของสกอตแลนด์ (Scotland) จากเอดินบะระ (Edinburgh) ทวนขึ้นไปตามแม่น้ำฟอร์ธ (Forth River) ผ่านสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่โดดเด่นมากมาย ต่อด้วยเมืองกลาสโกว์ (Glasgow) แล้วก็ฐานทัพเรือฟาสเลน (Faslane Naval Base) ก่อนจะไปสิ้นสุดที่ถ้ำฟิงกอล (Fingal’s Cave) ถ้ำที่เป็นแรงบันดาลใจให้นักเขียนและศิลปินสร้างผลงานออกมานานตั้งแต่ศตวรรษที่ 18
คราวนี้เราจะได้ไปเยือนไอร์แลนด์กันครับ โดยจะเริ่มการเดินทางกันที่มิเซนเฮด (Mizen Head) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของไอร์แลนด์ แล้วเราจะลัดเลาะชายฝั่งก่อนจะเข้าไปยังปราสาทบลาร์นีย์ (Blarney Castle) ก่อนจะลงมายังคอร์ก (Cork) เมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสอง จากนั้นเราจะไปหยุดกันที่ Rock of Cashel ก่อนจะไปยังวอเตอร์ฟอร์ด (Waterford) เมืองที่ครั้งหนึ่งขึ้นชิ่อในเรื่องทำแก้วคริสตัล แล้วก็ไปยังเว็กซ์ฟอร์ด (Wexford) และจบการเดินทางที่พาวเวอร์สคอร์ต เอสเตท (Powerscourt Estate)
มาครับ ไปเที่ยวเซาท์แคโรไลนากัน เริ่มกันที่มุมตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐที่ไมร์เทิลบีช (Myrtle Beach) แล้วก็วกเข้าไปยังสถานบันเทิงริมถนนที่มีชื่อที่สุดในอเมริกาที่ South of the Border แล้วไปยังอุทยานแห่งชาติคองการี (Congaree National Park) ต่อด้วยโคลัมเบีย (Columbia) เมืองหลวงของเซาท์แคโรไลนา แล้วเราก็ผ่านกรีนวิลล์ (Greenville) ไปยังทะเลสาบคีโอวี (Lake Keowee) ต่อด้วยป้อมปราการประวัติศาสตร์ที่ไนน์ตี้ซิกซ์ (Ninety Six) ก่อนจะจบการเดินทางของเราที่ทะเลสาบสตรอมเธอร์มอนด์ (Strom Thurmond Lake)
มาครับ ไปฝรั่งเศสกัน คราวนี้การเดินทางจะเริ่มที่แซ็ง-นาแซร์ (Saint-Nazaire) แล้วเราจะล่องไปยังนองต์ (Nantes), อองเช่ร์ (Angers), ตูร์ (Tours), บลัวร์ (Blois), ออร์เลอ็อง (Orleans), ฟงแตนโบล (Fontainebleau) และสิ้นสุดการเดินทางที่โว-เลอ-วีกงต์ (Vaux-le-Vicomte)
ตอนนี้เราจะไปเที่ยวรัฐเวอร์จิเนียกันครับผม โดยเราจะเริ่มกันที่เมืองวิลเลี่ยมส์เบิร์ก (Williamsburg) ก่อนจะมายังเมืองเจมส์ทาวน์ (Jamestown) เมืองที่ชาวอังกฤษมาตั้งรกรากในศตวรรษที่ 17 จากนั้นเราก็จะบ่ายหน้าสู่เมืองยอร์คทาวน์ (Yorktown) เมืองที่ฝ่ายอังกฤษพ่ายแพ้ต่อ George Washington ในสงครามประกาศอิสรภาพ แล้วเราก็จะไปเยือนแฮมป์ตัน (Hampton) ก่อนจะข้ามไปยังนอร์ฟอล์ค (Norfolk) ที่ตั้งของฐานทัพเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก แล้วก็แวะหาดเวอร์จิเนีย (Virginia Beach) พร้อมชมอ่าวเชสซาพีค (Chesapeake Bay) แล้วการเดินทางก็จะสิ้นสุดลงที่เกาะแอสซาทีค (Assateague Island)
ตอนนี้เรากลับมาที่อเมริกาครับ ไปที่รัฐเซาธ์ดาโกต้า (South Dakota) กัน โดยจะเริ่มการเดินทางกันที่ตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐ ก่อนจะลงไปทางใต้ยังสเปียร์ฟิช (Spearfish) ต่อด้วยอุทยานแห่งชาติแบล็คฮิลล์ (Black Hills National Forest) แล้วแวะเมืองคาวบอยเดดวู้ด (Deadwood) ที่ล้อมไปด้วยเหมืองทอง ต่อด้วยสเตอร์จิส (Sturgis) จากนั้นลงใต้ไปยังเรพิด ซิตี้ (Rapid City) เมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของเซาธ์ดาโกต้า แล้วก็จบการเดินที่เมาท์ รัชมอร์ (Mount Rushmore) อันโด่งดัง
ตอนนี้เราจะไปเที่ยวกันที่เกาะมายอร์กา (Mallorca) ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยรีสอร์ทตากอากาศมากมาย ซึ่งธุรกิจการท่องเที่ยวของที่นี่เริ่มปเนรูปเป็นร่างราวยุค 1950 ครั้นพอถึงยุค 1960 ก็มีคนมาเที่ยวนับได้ราว 5 แสนคน แต่พอถึงปี 1997 นี่คนที่ตั้งใจมาพักผ่อนที่เกาะแห่งนี้ทะยานถึง 7 ล้านคน และหากเราดูตัวเลขกันในสมัยนี้ ก็มีนักท่องเที่ยวร่วมๆ 10 ล้านคนที่มาพักผ่อนที่นี่ครับ
ตอนนี้การเดินทางจะเริ่มที่ทางเหนือของอิตาลี ที่เมืองเวโรนา (Verona) เมืองของโรมิโอและจูเลียต ก่อนจะบ่ายหน้าไปทางตะวันออกสู่เมืองปาดัว (Padua) แล้วก็ล่องตะวันออกต่อไปยังเวนิส (Venice) หนึ่งในเมืองยอดนิยมของโลก จากนั้นก็ขึ้นเหนือไปยังตอนใต้ของเทือกเขาแอลป์ (Alps) ที่อัสโซโล (Asolo) และจบการเดินทางที่เมืองวิเซนซา (Vicenza)
หมื่นทิพ's Review 