
เรื่องราวของบ้านผีสิงชื่อดังอย่าง อมิตี้วิลล์ ยังสามารถเอามาหากินได้อยู่เรื่อยๆ ครับ แม้ส่วนมากจะไม่เข้าเป้าก็เถอะ แต่อย่างน้อยทำออกมาป้อนตลาดหนังแผ่น/หนังออนไลน์ ก็ยังพอมีคนติดตามอยู่บ้าง
เรื่องราวของบ้านผีสิงชื่อดังอย่าง อมิตี้วิลล์ ยังสามารถเอามาหากินได้อยู่เรื่อยๆ ครับ แม้ส่วนมากจะไม่เข้าเป้าก็เถอะ แต่อย่างน้อยทำออกมาป้อนตลาดหนังแผ่น/หนังออนไลน์ ก็ยังพอมีคนติดตามอยู่บ้าง
คอเรื่องลึกลับแนวบ้านผีสิงคงรู้จักตำนานอาถรรพ์ของบ้านหลังนี้ดีนะครับผม กับเรื่องราวที่ว่ากันว่าเกิดขึ้นจริงของบ้านผีสิงแห่งอมิตี้วิลล์
หลังจากรีวิวหนังชุดบ้านผีสิงแห่งอมิตี้วิลล์ไปจนครบชุด 8 ภาคแล้วน่ะนะครับ เพิ่งนึกได้ว่ายังไม่ได้รีวิวฉบับรีเมคเลยนี่เน้อะ ก็ต้องเอาซะหน่อยล่ะครับ
เฮ่อ แล้วก็เล่าถึงตอนสุดท้ายของหนังชุดนี้ซะที กับตอนที่ 8 ของหนังชุดบ้านผีสิงแห่งอมิตี้วิลล์ที่ยิ่งทำก็ยิ่งออกทะเลไปไกลแสนไกล ภาคนี้ไปโน่นแล้วครับ บ้านผีสิงแห่งอมิตี้กลายเป็นบ้านตุ๊กตาไปซะแล้ว
มาถึงตอนที่ 7 แล้วนะครับ กับหนังชุดบ้านผีสิงแห่งอมิตี้วิลล์ (ซึ่งจริงๆ ทำแค่สองภาคจบก็น่าจะพอแล้วล่ะ ภาคที่ตามๆ มาเนี่ยดันทุรังแท้ๆ … ผมก็ช่างดันทุรังดูด้วยนะเน้อะ)
ไล่เล่าให้จบครบทุกภาคล่ะนะครับ แล้วเราก็มาถึงตอนที่ 6 แล้วของหนังชุดบ้านผีสิงแห่งอมิตี้วิลล์ ซึ่งภาคนี้โดยส่วนตัวนะครับ ผมมองว่าเป็นภาคที่โอเคที่สุดแล้ว หากเทียบกับบรรดาตอนต่อที่ผ่านๆ มาของหนังชุดนี้ เรียกได้ว่าภาคแรกเข้าท่าสุด ภาคสองยังโอเค และภาคนี้นี่แหละครับที่ยังพอพูดได้ว่าเป็นหนังสยองที่พอจะน่าติดตามบ้าง
ยังจะมีออกมาอีกครับ นี่ก็ภาค 5 แล้วกับเรื่องคำสาปบ้านผีแห่งอมิตี้วิลล์ อ้ะ อ้ะ อ้ะ แต่ภาคนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับบ้านเลขที่ 112 โอเชียน อเวนิวแห่งอมิตี้วิลล์เลยนะครับ บ้านคนละหลังน่ะว่างั้นเถอะ
หลังจากภาคที่แล้วโดนกระหน่ำสับแหลก ขนาดทำเป็น 3 มิติก็ยังดึงคนดูไม่ได้ ในที่สุดตำนานเฮี้ยนที่บ้านอมิตี้วิลล์ก็ต้องอำลาจากโรงใหญ่ครับ แต่ไม่ว่าจะยังไง หนังประเภทนี้หากมีลู่ทางทำภาคต่อไว้โกยเงินเล็กๆ น้อยๆ ได้ เขาก็ย่อมทำกันออกมาครับ แล้วผลก็ออกมาเป็นภาค 4 นี่เอง
ครับ หลังจากการฟ้องร้องระหว่างผู้สร้างกับครอบครัวลัทซ์ในภาคก่อน ทำให้ครอบครัวลัทซ์ไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับทีมงานอีกต่อไป ขณะเดียวกันทีมงานเองก็เข็ดแล้วครับกับการเอาเรื่องเล่าเรื่องจริงในตำนานอมิตี้วิลล์มาสร้าง เพราะหากเอาเรื่องจริงของใครมาสร้างก็เหมือนมีเจ้ากรรมนายเวรครับ คนเล่านั่นก็จะใช้สิทธิ์ความเป็นเจ้าของเรื่องมาสร้างปัญหาได้ (ดังเช่นกรณีของครอบครัวลัทซ์)
ภาคแรกดัง ภาคสองก็เกิดตามมาครับ เป็นเรื่องปกติ