ภาคแรกถือว่าดูเอามันส์ได้เพลินๆ ครับ มาภาคนี้ก็อีหรอบเดียวกัน คือดูเอาสนุก เอามันส์ เอาฮา แล้วก็ดูแสงสีกับ Effect ซึ่งถ้าใครชอบอะไรพวกนี้ล่ะก็ เต่านินจาภาคใหม่นี่ก็ตอบโจทย์เลยล่ะ
ภาคแรกถือว่าดูเอามันส์ได้เพลินๆ ครับ มาภาคนี้ก็อีหรอบเดียวกัน คือดูเอาสนุก เอามันส์ เอาฮา แล้วก็ดูแสงสีกับ Effect ซึ่งถ้าใครชอบอะไรพวกนี้ล่ะก็ เต่านินจาภาคใหม่นี่ก็ตอบโจทย์เลยล่ะ
ผมนั้นเป็นแฟนเต่านินจาครับ ดูตั้งแต่สมัยช่อง 3 นำมาฉาย จำได้ตอนหนังภาค 1 จะเข้าผมก็รีบขอพ่อแม่ไปโรงหนังเลยครับ อยากดูมาก ปรากฏว่ามันเข้าวันศุกร์ แต่ผมทะลึ่งไปวันอังคาร (ก็หนังสือพิมพ์โฆษณาล่วงหน้าน่ะครับ 555) วันนั้นเลยไปนั่งกินพิซซ่าแทน
ตอนที่ 3 ครับ คราวนี้ขบวนการเต่านินจาของเราเกิดไปเจอโคมไฟวิเศษที่นำพาพวกเขาย้อนเวลาไป ยังญี่ปุ่น ซึ่งก็พอดีที่นั่นกำลังเกิดสงครามอยู่เชียว ระหว่างเจ้าเมืองกับชาวบ้าน โดยผู้ที่อยู่เบื้องหลังสงครามนี้ก็คือ วอล์คเกอร์ (Stuart Wilson) นักล่าอาณานิคมผู้ชั่วร้าย ทำให้ 4 เต่าของเราต้องจัดการทลายสงครามและนำความสงบให้กลับคืนมา
ภาค 2 ครับซึ่งน่าจะเป็นตอนที่เหมือนการ์ตูนสุดๆ แล้วล่ะครับ ภาคนี้ก็เป็นการกลับมาของเจ้าเชร็ดเดอร์ (François Chau) ที่นับวันก็ยิ่งรู้สึกแค้นเต่านินจาของเรามากขึ้น จนมันไปพบกับความลับของสสารที่เรียกว่า “อูซ” ซึ่งเจ้านี่แหละคือสิ่งที่ทำให้เต่านินจาและสปลินเตอร์ได้กลายพันธุ์มาเป็น อย่างทุกวันนี้ และแน่ล่ะครับ ลองว่าเชร็ดเดอร์รู้พิษสงของอูซแล้ว มีหรือที่จะไม่เอามาทำเรื่องเลวๆ น่ะ
สร้างจากการ์ตูนที่ดังโคตรๆ จำได้มั้ยล่ะครับ เมื่อก่อนเอามาฉายช่อง 3 ส่วนใหญ่เราก็ติดกันงอมแงมพอควร กับเรื่องราวของเต่า 4 ตัวที่กลายมาเป็นผู้พิทักษ์ความถูกต้องในเมือง มาฉบับหนังใหญ่ ซึ่งก็ยังคงพล็อตเดิมไว้