ป้ายกำกับ: Rocky

Creed (2015) ครี้ด บ่มแชมป์เลือดนักชก

ร็อคกี้ บัลบัวร์ ถือเป็นตัวละครที่สร้างขึ้นด้วยมือของ Sylvester Stallone (เพราะเขาเขียนบท Rocky เอง) และขณะเดียวกันบทร็อคกี้ก็ทำให้ Stallone โด่งดังค้างฟ้า เป็นที่รู้จักมาจนถึงทุกวันนี้

Rocky V : The Final Bell (1990) ร็อคกี้ 5 หัวใจไม่ยอมสยบ

ตอนก่อนๆ ถ้าท่านอ่านกันน่ะนะครับ จะเห็นว่าผมชมในเรื่องการเขียนบทของพี่ Sylvester Stallone ในภาคแรกนั้น บทหนังมันสมบูรณ์ครับ เรียบง่ายแต่สมบูรณ์ ส่วนภาคสองก็ป็นส่วนเสริมจากภาคแรก พอมาภาคสามพี่แกก็ฉลาดพอที่จะเปลี่ยนแนวให้กับหนังโดยเพิ่มความมันส์ลงไป พอมาภาคสี่แกก็ผูกเรื่องจากภาคสามมาสร้างเงื่อนไขทางอารมณ์ให้กับคนดู ซึ่งถ้าดูจากสี่ภาคแรกนี่ ยอมรับว่าแกก็มีฝีมือนะครับ

แต่พอมาภาคห้าเท่านั้นแหละ ผมถึงแก่ความงงว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่สไลเนี่ย

Rocky IV (1985) ร็อคกี้ 4 ขยี้หมียักษ์

เรื่องราวในภาคนี้ก็ต่อเนื่องจากตอนก่อนนะครับ เมื่อร็อคกี้ (Sylvester Stallone) กับอพอลโล (Carl Weathers) ได้กลายเป็นเพื่อนซี้กันไปแล้ว พวกเขาก็ออกงานร่วมกันอยู่เสมอๆ แต่แล้วในการชกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นแมทช์ระหว่างอพอลโล กับ อิวาน ดราโก้ (Dolph Lundgren) นักชกหมัดเหล็กไหลจากรัสเซีย ปรากฏว่าการชกครั้งนี้ส่งผลให้อพอลโลเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิต ทำให้ร็อคกี้ต้องคืนสังเวียนอีกครั้งในการประลองหมัดกับอิวาน และครั้งนี้ ร็อคกี้ต้องเดินทางไปยังดินแดนหมีขาวเพื่อล้างแค้นให้อพอลโลครับ

Rocky III (1982) ร็อคกี้ 3 ตอน กระชากมงกุฏ

แม้ภาคที่แล้วจะประสบความสำเร็จไปพอประมาณ แต่ก็ยังนับว่าน้อยกว่าภาคแรกนะครับ และแนวหนังมันก็เริ่มย่ำวนอยู่กับที่แล้วด้วย ซึ่งดูท่าว่า Sylvester Stallone จะเล็งเห็นในเรื่องนี้เหมือนกัน ทีนี้พอเขาคิดจะทำตอนต่อ เขาเลยจัดการเขียนบทในแนวเรื่องใหม่ นั่นคือจับเรื่องเป็นแนวบู๊เต็มตัวครับ เพื่อทำให้เรื่องร็อคกี้มันแปลกใหม่ขึ้น คนดูจะได้กลับมาดูมากขึ้นอะไรทำนองนั้นน่ะนะครับ และนั่นก็เป็นการกระทำที่ถูกต้องทีเดียว

Rocky (1976) ร็อคกี้

มันก็จริงนะครับที่หลังๆ มานี่ผลงานของพี่ Sylvester Stallone จะไม่ค่อยประสบความสำเร็จและไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่ แต่ผมก็เป็นคนหนึ่งครับที่ยังบ้าดูผลงานของพี่แกอยู่เรื่อยๆ แม้ว่าคนจะด่ายังไงก็เหอะ ซึ่งคนละเหตุผลกับที่ผมบ้าดูหนังของพี่ Steven Seagal นะครับ ขานั้นน่ะผมดูเอาฮามากกว่า แต่การที่ผมยังดูหนังของพี่สไลอยู่อย่างต่อเนื่อง ก็เพราะหนังเรื่องนี้นี่แหละ