
Robert Zemeckis นี่คือผู้กำกับที่คอหนังอายุ 35 อัพทุกคนน่าจะจำชื่อแกได้แม่นครับ เพราะผลงานเก่าๆ ของเขามันคือตำนานประดับวงการขนานแท้
Robert Zemeckis นี่คือผู้กำกับที่คอหนังอายุ 35 อัพทุกคนน่าจะจำชื่อแกได้แม่นครับ เพราะผลงานเก่าๆ ของเขามันคือตำนานประดับวงการขนานแท้
นี่น่าจะเป็นอีกหนึ่งรีวิวที่ผมจะไม่ร่ายยาวนะครับ เพราะชีวิตนี้ดูหนังที่ดัดแปลงจากวรรณกรรม A Christmas Carol ของ Charles Dickens ไปถึง 4 เวอร์ชั่นแล้ว (คือของปี 1984, 1999 แล้วก็ Scrooged ที่เปลี่ยนเหตุการณ์มาเกิดในยุคปัจจุบันนำแสดงโดย Bill Murray แล้วก็ Ms. Scrooge หนังปี 1997 ที่เปลี่ยนเพศคุณสครูจจอมตืดให้กลายเป็นผู้หญิงแทน อันนี้แสดงโดย Cicely Tyson) และ A Christmas Carol ฉบับแอนิเมชั่นของ Robert Zemeckis นี่ก็จะเป็นเวอร์ชั่นที่ 5 พอดีครับ
ถ้าถามถึงหนังเรื่องโปรด Top Ten ของผมแล้ว Back to the Future คือหนึ่งในนั้นแน่นอนครับ เพราะเป็นหนังที่เอามาเปิดดูซ้ำบ่อยมากจนตอนนี้น่าจะใกล้ๆ 100 ครั้งแล้วล่ะครับ มันชอบแบบสุดชีวิตจริงๆ
เป็นหนังที่ผมดูไปกลัวไปเมื่อตอนเป็นเด็กครับ เพราะแม้มันจะเป็นหนังตลก แต่เนื้อเรื่องบางช่วงบางตอนก็ก่อให้เกิดภาพชวนขนลุกขึ้นมาได้เหมือนกัน
ผมทึ่งพอสมควรตอนรู้ว่านี่คืองานกำกับคั่นเวลาของ Robert Zemeckis
ตอนดูรอบแรกเมื่อสมัยเด็กนี่ มันรู้สึกว่าหนังโคตรมหัศจรรย์เลยนะครับ ในหัวคิดซ้ำๆ ว่า “คนแสดงกับตัวการ์ตูนได้ยังไงอ้ะ” มันเป็นอะไรที่ตื่นตามากๆ และเชื่อว่าคนรุ่นผมที่ได้ดูในโรงก็คงตื่นเต้นไม่แพ้กัน
และการผจญภัยเดินทางย้อนเวลาเจาะอนาคตก็มาถึงบทสรุปแล้วครับ
ภาคแรกดัง ทีนี้ทั้ง Robert Zemeckis และ Bob Gale ก็สามารถสานต่อความฝันของพวกเขาได้แล้วล่ะครับ กับการทำมันเป็นไตรภาค ในภาคนี้หลังจากแก้ปัญหาได้ทุกอย่างในคราวก่อน ปรากฏว่ามีปัญหาใหม่มาจนได้ครับ
หนังเรื่องนี้ ขอบอกว่าครบถ้วนในเรื่องของความบันเทิงครับ
ดีกรีรางวัลก็แทบไม่ต้องพูดถึงล่ะครับ คว้าไป 6 ตัวรวมทั้งภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประจำปีด้วย กับเรื่องราวของนายฟอร์เรสต์ กัมพ์ (Tom Hanks) ชายหนุ่มผู้ใสซื่อ มีชีวิตดั่งขนนกที่ลอยตามลมครับ ลมพัดไปทางไหน เขาก็ไปทางนั้น นั่นทำให้ชีวิตของเขาได้เจอกับอะไรที่หลากหลายเอามากๆ ได้เจอกับบุคคลสำคัญหลายราย ได้พบกับเหตุการณ์มากมาย และนั่นก็ทำให้หนังเรื่องนี้ น่าติดตามไปตลอด 140 นาทีเลยทีเดียว