ดูรอบแรกแล้วชอบ ครั้นดูซ้ำดูซ้อนก็ยังคงรู้สึกสนุกอยู่ – บอกตรงๆ เลยว่าอยากดูภาคต่อมากๆ ครับ
ดูรอบแรกแล้วชอบ ครั้นดูซ้ำดูซ้อนก็ยังคงรู้สึกสนุกอยู่ – บอกตรงๆ เลยว่าอยากดูภาคต่อมากๆ ครับ
ดู Hypnotic แล้วคิดอยู่ 2 อย่างครับ อย่างแรกคือ หนังก็โอเคนะ พอเพลินได้อยู่ และอย่างที่ 2 คือ “นี่แหละหนังของพี่ Robert Rodriguez”
Spy Kids: Armageddon ถือว่าไม่เลวครับ มีจุดที่เข้าท่าและยังโอได้อีกผสมๆ กันไป ถ้าให้เรียงตามความชอบแล้ว ภาคนี้ยังสู้ 2 ภาคแรกไม่ได้ แต่ก็ถือว่าน้องๆ ภาค 3 และเข้าท่ากว่าภาค 4 ครับ
เคยดู Spy Kids 4: All the Time in the World รอบนึงครับ เท่าที่จำได้คือไม่ได้ประทับใจอะไรนัก รู้สึกได้ว่าดีกรีความสนุกสู้ 3 ภาคแรกไม่ได้ และว่าตามจริงคือออกจะลืมๆ รายละเอียดไปแล้วด้วย แต่ล่าสุดก็เอามาย้อนดูอีกรอบเพื่อต้อนรับภาคใหม่ และกลายเป็นว่าผมโอเคกับหนังมากขึ้นครับ ส่วนหนึ่งก็น่าจะเพราะหัวมันจัดการปรับความคาดหวังให้พอดีกับหนังที่ดูแบบอัตโนมัติน่ะครับ – ประมาณว่ารู้ว่าจะดูอะไร ใจมันก็เลยปรับตามในระดับหนึ่ง
ผมเลือกดู We Can Be Heroes เพราะอยากเปิดหนังที่เด็กดูได้แบบง่ายๆ ให้ลูกดูครับ แล้วผลลัพธ์ก็ถือว่าโอเคนะ ลูกผมดูแล้วก็สนุกอยู่ ส่วนผมเองก็ว่าไม่เลวเหมือนกัน แม้ว่าจะมีบางจุดให้ตะขิดตะขวงก็ตาม
The Adventures of Sharkboy and Lavagirl เรื่องนี้เห็นมานานมากแต่ก็ไม่ได้ดูสักทีครับ อาจเพราะความสนใจมันไม่มากหรือไม่ก็อิ่มตัวแนวนี้ไปแล้วหลังจากดู Spy Kids มาหลายภาค แต่ที่เอามาดูนี่ก็เพราะวันก่อนได้ดู We Can Be Heroes ครับ แล้วก็เพิ่งรู้ว่าเรื่องนั้นเป็นภาคต่อของเรื่องนี้ (เพราะมีตัวละครชาร์คบอยกับลาวาเกิร์ลไปโผล่ด้วย) ก็เลยย้อนหามาดู
ผมสงสัยเสมอว่าทำไม Sin City: A Dame to Kill For ถึงทำรายได้ไม่สวยเลย (ทำไป $39 ล้านจากทั่วโลก ในขณะที่ทุนนั้นปาเข้าไป $65 ล้าน)
หลังจากผมร่าย Death Proof ของพี่ Quentin Tarantino ไปเรียบร้อยก็ถึงคราวหนังโหดซอมบี้โคโยตี้แข้งปืนกลของพี่น้องร่วมสาบานพี่ Quentin อย่างนาย Robert Rodriguez
นี่ก็เป็นหนังที่ตอนเข้าโรงนี่ผมอยากดูมากเลยครับ เพราะหน้าหนังมันออกแนวมนุษย์ต่างดาวบุกโลกผสมกับแนววัยรุ่น ซึ่งถ้าทำออกมาดีๆ นี่สนุกสนานแน่นอน อย่างน้อยก็ดูเพลินล่ะครับ แล้วยังได้ Robert Rodriguez แห่ง El Mariachi, Desperado และ From Dusk Till Dawn มากำกับด้วย ก็น่าสนใจล่ะครับว่าหนังจะออกมาอีท่าไหน
มาครับ มาต่อกัน ผมยังไม่เรื่องกับผู้ชายที่ชื่อ Robert Rodriguez นะครับผม หลังจากแนะนำหนังไตรภาคภายใต้ฝีมือการกำกับของเขาไปสองชุดแล้ว (ชุด El mariachi และ Spy Kids) ก็ขอต่อให้จบครับ กับอีกหนึ่งงานไตรภาคที่มี Rodriguez เข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งงานนี้เขาจับมือร่วมงานกับ เพื่อนซี้พี่น้องผู้รู้ใจอย่าง Quentin Tarantino กับงานหนังแอ๊คชั่นเลือกสาดโหดเต็มพิกัด แต่ก็ฮาแทรกเป็นพักๆ