Analyze That เป็นภาคต่อของ Analyze This ครับ
Analyze That เป็นภาคต่อของ Analyze This ครับ
เป็นหนังตลกที่ผมเอามาดูซ้ำบ่อยมากครับ เพราะผมชอบหนังแนวมาเฟียแก๊งสเตอร์เป็นทุนเดิม แล้วเรื่องนี้ก็จับเอาเรื่องเจ้าพ่อมาเฟียมาเล่าในแนวขำ และที่สำคัญคือมันออกมาขำได้ใจด้วย
ผมโตมากับหนังรักที่ลงเอยด้วยความสมหวัง และ Happy
จนเผลอมโนไปว่า “ขอเพียงทำให้คนรับรักจากเราได้ ทุกอย่างที่ตามมาต้องสุขสม”
ช่วงปลายยุค 90 Sylvester Stallone ได้ค่าตัวระดับ $15 – $20 ล้าน แต่หนังทุกเรื่องที่เล่นกลับไม่ทำเงินเท่าที่ควร พอถึงจุดหนึ่งเขาเลยตัดสินใจชุบตัวสร้างชื่อในวงการใหม่ด้วยหนังคุณภาพฟอร์มเล็ก และ Cop Land คือเรื่องแรกในกระบวนการชุบตัวนั้นครับ
ถือเป็นโปรเจคท์ที่น่าจับตามากตอนประกาศสร้างครับ เพราะได้ Robert De Niro มาเจอ Edward Norton ปิดท้ายด้วย Marlon Brando แหม 3 คนนี้นี่ก็วิ่งเข้าออกเวทีออสการ์กันมากี่ครั้งแล้วล่ะครับ ฝีมือน่ะเชื่อขนมรัปประทานได้เลยว่าดีแน่ๆ ขอแค่ให้หนังออกมาสนุกสนาน ได้รสชาติกลมกล่อมก็พอ
เอมิล สโลแว็ก (Karel Roden) และโอเล็ก ราซกูล (Oleg Taktarov) คือสองอาชญากรจากฝั่งยุโรปที่มาอเมริกาเพื่อความดังและความร่ำรวยครับ โดยการใช้กล้องถ่ายวีดีโอคอยถ่ายพฤติกรรมของพวกเขาทั้งยามปกติและยามที่ก่อเหตุอาชญากรรม ก่อนจะส่งคลิปให้สถานีโทรทัศน์ไปออกข่าว
Wag the Dog คือหนังเสียดสีการเมืองที่แสบได้ที่อีกเรื่อง ดูครั้งแรกประมาณ 15 ปีก่อน ซึ่งก็ส่งผลต่อมุมมองของผมในเรื่องสื่อ-ข่าวสาร-การเมืองพอสมควรครับ
ผมเชื่อว่าคนรักหนังทุกคนต้องมีหนังสักเรื่อง (หรือหลายเรื่อง)ที่เอามาดูแล้วดูอีก ดูซ้ำได้โดยไม่เบื่อ อาจจะเดือนละครั้ง หรือสามเดือนครั้ง โดยที่หนังเรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องที่เราชอบที่สุุด ไม่ใช่หนังที่หนึ่งในดวงใจ แต่เราก็ยังชอบเอามาดู แล้วก็มีความสุขทั้งขณะดูไปจนถึงตอน End Credits ขึ้น… และสำหรับผม Men of Honor คือหนึ่งในหนังประเภทนั้นครับ
แฮร์รี่ แองเจิ้ล (Mickey Rourke) นักสืบแห่งมหานครนิวยอร์กได้รับการว่าจ้างจากชายท่าทางภูมิฐานคนหนึ่ง นามว่า หลุยส์ ไซเฟอร์ (Robert De Niro) และภารกิจก็คือให้แฮร์รี่ตามหาชายชื่อ จอห์นนี่ เฟเวอริทให้พบ โดยที่หลุยส์เองก็ไม่ได้ชี้แจงแจ้งชัดว่าทำไมเขาถึงอยากเจอจอห์นนี้คนนี้
ไม่มีอะไรกวนโทสะได้มากไปกว่าการที่เครื่องคอมดันมาแฮงค์ตอนเรากำลังพิมพ์เพื่อโพสต์ลง!