ภาคที่ 3 ของหนังชุด Shaft ครับ โดยหนนี้ยอดนักสืบจอห์น แชฟท์ (Richard Roundtree) ถูกว่าจ้างให้ตามรอยขบวนการค้าทาสผิวดำที่กำลังก่อการฮึกเหิม นอกจากพวกมันจะค้าทาสแบบไม่เกรงกลัวกฎหมายแล้ว มันยังฆ่าปิดปากทุกคนที่เข้าไปสืบหาหลักฐานในการเอาผิดพวกมัน
ภาคที่ 3 ของหนังชุด Shaft ครับ โดยหนนี้ยอดนักสืบจอห์น แชฟท์ (Richard Roundtree) ถูกว่าจ้างให้ตามรอยขบวนการค้าทาสผิวดำที่กำลังก่อการฮึกเหิม นอกจากพวกมันจะค้าทาสแบบไม่เกรงกลัวกฎหมายแล้ว มันยังฆ่าปิดปากทุกคนที่เข้าไปสืบหาหลักฐานในการเอาผิดพวกมัน
จอห์น แชฟท์ (Richard Roundtree) กลับมาอีกครั้งครับ หนนี้เพื่อนของเขาโดนฆ่าตาย เขาเลยต้องโดดลงมาตามล่าหาความจริง แล้วก็พบว่าเรื่องนี้น่าจะมีพวกเจ้าพ่อขาใหญ่อยู่เบื้องหลัง
หนังเท่ห์ระดับตำนานอีกเรื่องครับ ตัวเอกคือ จอห์น แชฟท์ (Richard Roundtree) นักสืบเอกชนคนแกร่งที่กล้าท้าชนทุกอันตราย ไม่หวั่นแม้ฝ่ายตรงข้ามจะเป็นตำรวจหรือเจ้าพ่อบิ๊กเบิ้มแค่ไหนก็ตาม ลองว่าเจอแชฟท์ก็ต้องสะท้านด้วยกันทั้งนั้น
แม้ชื่อจะเป็นภาคต่อ และดารานำคนเดิมตามมาเล่น แต่เนื้อในนี่เป็นคนละเนื้อเรื่องกัน เป็นการเริ่มเรื่องใหม่โดยใช้ดาราเดิมและชื่อเรื่องเดิมนั่นเอง
Chuck Norris ในบท ฌอน เคน เจ้าหน้าที่ตำรวจจอมระห่ำแห่งนครซานฟรานซิสโก ที่ต้องเสียเพื่อนไปในหน้าที่ เขาเลยตัดสินใจออกตามล่าตัวการที่อยู่เบื้องหลัง ซึ่งก็แน่ล่ะครับว่าระหว่างการตามล่าหาความจริงนั้น เขาก็ต้องฝ่าดงกระสุน ออกหมัดซัดวายร้ายที่พยายามจะขัดขวางไม่ให้เขาเข้าถึงตัวการใหญ่ที่เป็นคนระดับบิ๊กของเมืองซะด้วย
ไมโล ฮอฟฟ์แมน (Ryan Phillippe) คือโปรแกรมเมอร์มือฉมังที่ใฝ่ฝันว่าสักวันเขาจะได้ทำงานในบริษัทซอฟท์แวร์ระดับโลกอย่าง NURV ที่บริหารโดย แกรี่ วินสตัน (Tim Robbins) และแล้วความฝันก็เป็นจริงครับเมื่อแกรี่รับไมโลเข้าทำงาน พร้อมมอบหมายโปรเจคท์สำคัญให้
มาถึงตอนที่ 7 แล้วนะครับ กับหนังชุดบ้านผีสิงแห่งอมิตี้วิลล์ (ซึ่งจริงๆ ทำแค่สองภาคจบก็น่าจะพอแล้วล่ะ ภาคที่ตามๆ มาเนี่ยดันทุรังแท้ๆ … ผมก็ช่างดันทุรังดูด้วยนะเน้อะ)
เรื่องนี้ถูกใจผมด้วยเหตุผลง่ายๆ ครับ มันสะใจดี เน้นเท่ห์ เน้นลุย ครบสูตรสำเร็จ แม้พล็อตจะไม่ได้มีอะไรมากก็เถอะ
หนังสร้างจากการ์ตูนของ DC Comics โดย Louise Simonson & Jon Bogdanove