ในเมืองอิปสวิช มีวัยรุ่น 4 คนที่เป็นทายาทของ 4 ตระกูลที่มีพลังเวทย์มนต์ ซึ่งพวกเขาก็สนุกกับการใช้อำนาจนี้ และกำลังรอคอยให้ตนเองอายุถึง 18 ปี เพราะตำนานว่าไว้ว่าพลังเวทย์ของพวกเขาจะมีอานุภาพสูงสุดเมื่ออายุครบ 18 ปี
อดีตซีไอเอมือเก๋าฉายา “ช่างก่ออิฐ” สตีฟ เวล (Aaron Eckhart) ต้องลงสนามอีกครั้งเมื่อ วิคเตอร์ ราเด็ค (Clifton Collins Jr.) อดีตสหายของเขาวางแผนแบล็คเมล์ซีไอเอโดยการใส่ความว่าซีไอเออยู่เบื้องหลังการฆาตกรรมนักข่าวรายหนึ่ง งานนี้สตีฟเลยต้องหยุดแผนร้ายของเพื่อนเก่าให้ทัน ก่อนมันจะสร้างความเสียหายขนานใหญ่
สรุปสำนวนสำหรับ The Misfits แล้ว หนังถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ครับ
ช่วงนี้รู้สึกโปรแกรมหนังเริ่มเข้าสู่โหมดนิ่ง ไม่ได้มีอะไรฟอร์มยักษ์ๆ มาเสิร์ฟให้ได้ดูกัน พอนั่งนึกๆ ก็ถึงบางอ้อครับ เพราะตอนนี้อเมริกาถือว่าหมดช่วงซัมเมอร์แล้ว จัดเป็นช่วงพัก จะมาเริ่มจัดกันหนักๆ อีกทีก็ปลายเดือนกันยายนโน่นครับ
จุดที่ถือว่าเข้าท่าของ The Legend of Hercules คือภาพสวยๆ คมๆ ตามด้วยฉากการต่อสู้ย้อนยุค อารมณ์ประมาณ Immortals น่ะครับ (ยังไม่โดดเด่นถึงขั้น 300)
ภาคนี้เป็นหนังนิ้วเขมือบตอนที่ทำเงินสูงสุดนะครับผม แต่จะเป็นไงบ้าง ต้องมาว่ากันอีกที
อีกเฮือกหนึ่งของ Sylvester Stallone และผู้กำกับ Renny Harlin นะครับ หลังจากเคยร่วมกันดังมาแล้วใน Cliffhanger
ประมาณต้นยุค 90 ทาง Carolco บริษัทยักษ์ใหญ่เจ้าบุญทุ่มเจ้าเก่าที่ทำหนังพวก Rambo ออกมานั้น ได้มีแนวคิดจะทำหนังแอ๊คชั่นเกี่ยวกับพระเอกที่ต้องมาต่อกรกับวายร้ายทั้งโขยง โดยมีฉากหลังเป็นพายุเฮอร์ริเคน แล้วก็กำหนดให้ Sylvester Stallone มาแสดงนำนะครับ แล้วก็กำกับโดย Renny Harlin แห่ง Die Hard 2: Die Harder
และเมื่อภาคแรกประสบความสำเร็จ ภาคต่อย่อมต้องตามมาครับ กับเรื่องราวที่ใหญ่กว่า และมีระเบิดกับกระสุนในปริมาณที่มากกว่า
ภาคนี้เขาจดจ่อรอจะสร้างมาไม่รู้กี่ปีกี่ชาติแล้วครับ กว่าจะออกมาได้ ซึ่งเป็นเนื้อหาเหตุการณ์ที่เกิดก่อนภาคแรกครับ เป็นเรื่องการเผชิญหน้าครั้งแรกระหว่าง คุณพ่อเมอร์ริน (Stellan Skarsgård) และปีศาจพาซูซู (ตัวที่เข้าสิงเรแกนในภาคแรกน่ะครับ) ซึ่งเหตุเกิดที่อัฟริกาตะวันออกน่ะครับ
หมื่นทิพ's Review 