
คาราเต้คิดภาคนี้เป็นภาคที่ผมผัดผ่อนในการดูมานานมากครับ เพราะได้ยินกิตติศัพท์ว่ามันไม่สนุก จนความรู้สึกอยากดูมันไม่มีเลย ถึงขนาดว่าสมัยก่อนตอนฉายให้ดูทาง HBO ผมก็ยังไม่รู้สึกอยากดู พร้อมกับคิดไปว่ามันคงไม่เข้าท่าแบบเดียวกับ Omen IV อะไรประมาณนั้น
คาราเต้คิดภาคนี้เป็นภาคที่ผมผัดผ่อนในการดูมานานมากครับ เพราะได้ยินกิตติศัพท์ว่ามันไม่สนุก จนความรู้สึกอยากดูมันไม่มีเลย ถึงขนาดว่าสมัยก่อนตอนฉายให้ดูทาง HBO ผมก็ยังไม่รู้สึกอยากดู พร้อมกับคิดไปว่ามันคงไม่เข้าท่าแบบเดียวกับ Omen IV อะไรประมาณนั้น
เป็นหนังเก่าแล้วน่ะนะครับ วันนี้นึกขึ้นมาได้ เคยดูตั้งแต่สมัยออกวีดีโอของ CVD (สม้ยก่อนมันก็มีค่ายยักษ์แค่ค่ายเดียวน่ะนะครับ)
นี่คือ หัวหอกเลยครับ รุ่นแรก เรื่องแรกของหนังสัตว์โลกน่ารักยุคที่ค่ายหนังหัวเสบางเจ้านำเข้าโรงใหญ่ให้ผู้ชมเสียเงิน แล้วโปรโมตซะจนคนดูคิดว่ามันน่าจะเป็นหนังฟอร์มเบ่อเร้อเรื่องหนึ่ง ซึ่งก็มาจากกระแสหนังแนวนี้ดีในบ้านเราไงครับ พวก Anaconda แล้วก็ Deep Rising จุดกระแสหนังแนวกินคนในบ้านเรา เรื่องแรกได้ไปเกือบร้อยล้าน เรื่องหลังได้ไปครึ่งร้อยล้าน ทีนี้ก็เลยมีคนนำเข้าเกาะกระแสเอามันฉายซะ
อืมม์ … ตอนผมดูหนังชุดนี้ผมเอามาดูเรียงกัน 3 ตอนรวดเลยนะครับ มันเลยเกิดอารมณ์บางอย่างขึ้นมาตอนผมดูภาคที่ 3 นี้เอง แต่เป็นอารมณ์ไหน เด๋วผมเล่าให้ฟัง
เหตุการณ์หลังจากภาคแรก 6 เดือนครับ ตอนนี้ทั้งแดเนี่ยล (Ralph Macchio) และมิยากิ (Pat Morita) คู่ศิษย์อาจารย์นักคาราเต้ก็มีอันต้องจับเครื่องบินมายังเมืองโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น เพื่อไปพบกับพ่อของมิยากิที่กำลังป่วยหนัก และการกลับมาครั้งนี้ของมิยากิก็ทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับอดีตซึ่งเขาทิ้งไว้เบื้องหลัง
ตอนแรกของหนังชุดนี้ครับ เป็นเรื่องของแดเนียล ลารุสโซ่ (Ralph Macchio) เด็กหนุ่มหน้าใหม่ที่เพิ่งย้ายมายัง แอล.เอ กับแม่ เขาได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ๆ พบสาวน้อยน่ารักอย่าง แอลลี่ย์ (Elisabeth Shue) แต่วินาทีที่เขาพบเธอ นั่นก็เป็นวินาทีที่เขาได้พบกับศัตรูคนใหม่