หนึ่งในหนังที่ตกค้างในหัวสมองตั้งแต่ต้นปี เพราะดูแล้วแต่ไม่ได้เขียนถึงเลยครับ ล่วงมาจนแผ่นจะออก เลยขอเขียนบอกเล่าความรู้สึกสักหน่อยก็แล้วกัน ^_^
หนึ่งในหนังที่ตกค้างในหัวสมองตั้งแต่ต้นปี เพราะดูแล้วแต่ไม่ได้เขียนถึงเลยครับ ล่วงมาจนแผ่นจะออก เลยขอเขียนบอกเล่าความรู้สึกสักหน่อยก็แล้วกัน ^_^
ผมหลงเสน่ห์หนังเรื่องนี้เข้าอย่างจังครับ
Armageddon ของพี่ Michael Bay นี่เป็นอีกเรื่องที่หากอยากมันส์เมื่อไร หรืออยากดูอะไรที่มันเร้าๆ และไม่หยุดนิ่ง (เพราะกล้องแกเคลื่อนตลอด) ก็จัดเรื่องนี้ได้เลยครับ
นี่คือหนังตลกที่ดังตั้งแต่ยังไม่สร้างเพราะเฮีย Jim Carrey ได้ทุบสถิติใหม่รับค่าตัวไป 20 ล้านจากหนังเรื่องนี้ แต่ตัวหนังกลับไม่ถูกใจผู้ชมเท่าที่ควรครับ ทำเงินได้คืนมาจากทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านเหรียญเท่านั้น ซึ่งก็ถือว่าพอเท่าทุน (ลงไป 47 ล้านน่ะครับ ถ้าตัดค่าตัวเฮียแกออก หนังก็จะลงทุนไม่เกิน 30 ล้านเท่านั้น)
นี่ก็เป็นหนังอีกเรื่องที่กำกับโดย Jay Roach ผู้ที่กำกับ หนัง Austin Powers ทั้ง 3 ภาคน่ะครับ
หนังแนวคู่หูสายลับที่สร้างจากซีรี่ส์ชื่อดังเมื่อยุค 1965 – 1968 นะครับ เรื่องราวเกี่ยวกับสายลับพิเศษอเล็กซ์ สก็อตต์ (Owen Wilson) ที่ทำงานไม่ค่อยจะได้เรื่องได้ราวเท่าไหร่ให้มาเข้าคู่กับ เคลลี่ โรบินสัน (Eddie Murphy) นักมวยจอมขี้โม้ สองคนถูกจับมาให้ร่วมงานในภารกิจตามหายานบินที่ล่องหนได้ ซึ่งกำลังจะถูกนำไปขายในตลาดมืด
ภาคต่อของ Shanghai Noon นะครับ กับการผจญภัยบทต่อมาของจางเหวิน (เฮียเฉินหลง) และรอย โอ แบนนอน (Owen Wilson) ที่ต้องรีบเดินทางไปยังลอนดอนเพื่อตามล่าตัวคนที่ฆ่าพ่อของจาง โดยที่น้องสาวของจางได้ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว (รับบทโดย Fann Wong) แล้วศัตรูของพวกเขาในภาคนี้คือ ลอร์ดเนลสัน รัธโบน (Aidan Gillen) ผู้ปองร้ายราชวงค์อังกฤษ และหวูโจว (Donnie Yen) องค์ชายกบฎจากแผ่นดินจีน งวดนี้ตีกันสนั่นบิ๊กเบลล์ล่ะครับ
หลังจากงาน Rush Hour ภาคแรกดังแล้ว ชื่อของเฉินหลงก็ฮ็อตขึ้นมาในบัดดล แล้วทีนี้ก็มีงานสารพัดยื่นเข้ามาครับ และนี่คืองานต่อจาก Rush Hour นั่น
สำหรับผู้ที่ชอบหนังฮาสไตล์พี่ Be […]
นีคือภาคแรกครับ เรื่องก็คือ ทีมงานที่จะไปถ่ายทำสารคดีเกี่ยวกับชนเผ่า ชิริชาม่า ในลุ่มน้ำอเมซอน แล้วทีนี้เผอิญระหว่างทางก็ไปเจอกับโคตรงูยักษ์เข้า ก็คงไม่ต้องบรรยายต่อแล้วนะครับ