คำจำกัดความที่ผมมีให้หนังเรื่องนี้ก็คงเป็นว่า “หนังสนุก เนื้อเรื่องเล่าได้พอเหมาะ แต่อาจจะไม่ได้มันส์ระเบิดระเบ้ออะไร” ว่าง่ายๆ คือถ้าคาดหวังแอ็กชันมันส์ๆ เร้าๆ ล่ะก็ คงต้องขอให้เผื่อใจไว้บ้างครับ
คำจำกัดความที่ผมมีให้หนังเรื่องนี้ก็คงเป็นว่า “หนังสนุก เนื้อเรื่องเล่าได้พอเหมาะ แต่อาจจะไม่ได้มันส์ระเบิดระเบ้ออะไร” ว่าง่ายๆ คือถ้าคาดหวังแอ็กชันมันส์ๆ เร้าๆ ล่ะก็ คงต้องขอให้เผื่อใจไว้บ้างครับ
ผมรู้สึกได้เลยว่าตอนนี้ อารมณ์ตัวเองกำลัง Down… ดูหนังจบประมาณบ่ายสองกว่าๆ จำได้ว่าออกจากโรงพร้อมความรู้สึก Down และรู้สึกเฮิร์ทนิดๆ ที่ใจ มาถึงตอนนี้จะห้าทุ่มแล้ว ผมก็ยังรู้สึกแบบนั้นอยู่… แน่นอนว่าที่ผมรู้สึกแบบนี้ก็เนื่องมาจาก Captain America: Civil War นี่แหละ
ผมว่า Ant-Man เนี่ย ไม่ใช่ไม่สนุกนะครับ มันก็ดูสนุกตามมาตรฐานหนังซูเปอร์ฮีโร่ทั่วไปนั่นแหละ ดาราหลักอย่าง Paul Rudd ก็มีเสน่ห์ในแบบของเขา จริงๆ ผมว่าพี่แกมีเอกลักษณ์เป็น “คนดีหลบใน จริงใจน่ารัก” แบบนี้มานานแล้วล่ะครับ (ใครเคยดู Clueless น่าจะจำได้) เพียงแต่เขาไม่ค่อยได้เล่นนำในหนังใหญ่ๆ สักเท่าไรเท่านั้นเอง
7 เหตุผลที่ผมชอบ Avengers: Age of Altron
ถ้าพูดถึงหนังในจักรวาล Marvel เรื่องที่ผมชอบที่สุด นอกจาก The Avengers แล้วก็ต้องยกให้เรื่องนี้เลยครับ เพราะองค์ประกอบของหนังมันถูกใจผมไปหมดจริงๆ
ในบรรดาหนังฮีโร่ภาคต่อของชุด Marvel Universe ก็มีเรื่องนี้แหละครับที่พูดได้แบบเต็มปากเต็มคำว่าทำออกมาได้ดี เด็ด และโดดเด่นกว่าภาคแรกแบบเห็นได้ชัด
ทุกท่านเคยได้ยินคำว่า “หนังจบ อารมณ์ไม่จบ” ไหมครับ มันแปลว่าหนังเมามันส์มาก แม้จะดูจบไปแล้ว แต่อารมณ์เรามันยังอินต่อเนื่อง ยังอยากพูดคุยเกี่ยวกับมัน อยากดูอีกสักรอบสองรอบ หรือไม่ก็อยากดูภาคต่อเร็วๆ
ถ้ามองหนังเรื่องนี้ในฐานะ “ก้าวที่ 3 ของ Iron Man” ผมรู้สึกว่ามันมีอะไรหลายอย่างที่น่าสนใจ ยิ่งถ้ามองในฐานะ “ก้าวที่ 1 ของ Marvel Phase 2” ก็ยิ่งรู้สึกว่าหลายอย่างในหนังเรื่องนี้ ช่างสะดุดตานัก
ผมชอบหนังเรื่องนี้ครับ ว่างๆ ก็เอามาดูเพื่อความเพลิดเพลินทางอารมณ์และเติมความสนุกเร้าใจให้ชีวิต
ผมภาวนาเสมอมาครับ ขอให้มีหนัง Captain America แบบที่มันเข้าท่าเข้าทางออกมาสักรอบหนึ่ง หลังจากทำกี่หนก็เข้ารกเข้าพงตลอด