
ปีที่ผ่านมามีหนังว่าด้วยโลกแตกแบบเน้นฮาและบ้าสุดๆ อยู่ 3 เรื่องครับ ได้แก่ This is The End และ Rapture-Palooza 2 เรื่องนี้มาจากฝั่งอเมริกา และอีกเรื่องคือ The World’s End จากฝั่งอังกฤษ
ปีที่ผ่านมามีหนังว่าด้วยโลกแตกแบบเน้นฮาและบ้าสุดๆ อยู่ 3 เรื่องครับ ได้แก่ This is The End และ Rapture-Palooza 2 เรื่องนี้มาจากฝั่งอเมริกา และอีกเรื่องคือ The World’s End จากฝั่งอังกฤษ
Hot Fuzz เป็นหนังที่เจ๋งอย่างเหลือเชื่อครับ มันผสมความเป็นหนังตำรวจคู่หู+แอ็กชันเท่ห์ๆ+สืบสวน+ระทึกขวัญ+ฮา ได้อย่างโคตรกลมกล่อม จนผมเอามาดูซ้ำทุกๆ 2 เดือนตั้งแต่ซื้อมา (10 ปีเห็นจะได้)
ปี1 ว่ามันส์แล้ว ปรากฏว่า Sherlock ปี 2 เทพยิ่งกว่า
ว่าตามจริงผมดู Black Panther ตั้งแต่ตอนมันเข้าโรง แต่ยอมรับว่าในช่วงนั้นมันไม่ได้มีความอยากจะเขียนรีวิวอะไรสักเท่าไร หรือกระทั่งตอนนี้ผมก็คิดว่าตัวเองคงไม่มีอะไรจะเขียนเกี่ยวกับมันมากนัก
ผมรู้สึกได้เลยว่าตอนนี้ อารมณ์ตัวเองกำลัง Down… ดูหนังจบประมาณบ่ายสองกว่าๆ จำได้ว่าออกจากโรงพร้อมความรู้สึก Down และรู้สึกเฮิร์ทนิดๆ ที่ใจ มาถึงตอนนี้จะห้าทุ่มแล้ว ผมก็ยังรู้สึกแบบนั้นอยู่… แน่นอนว่าที่ผมรู้สึกแบบนี้ก็เนื่องมาจาก Captain America: Civil War นี่แหละ
สิ่งที่ผมอยากบอกเกี่ยวกับซีรี่ส์ Sherlock ปี 1 ก็คือ…
The Hobbit: The Battle of the Fi […]
The Hobbit: The Desolation of Sm […]
เราคงไม่สามารถนำเอา The Hobbit: […]
ดูชื่อก็รู้แล้วครับว่าทำออกมายำ Dawn of The Dead เรื่องราวเกี่ยวกับนายชอว์น (Simon Pegg) หนุ่มที่ไม่เป็นโล้เป็นพายอะไรซักอย่าง วันๆ ก็ได้แต่ทำงาน แล้วตกเย็นก็มานั่งดื่มเหล้าไปตามเรื่องจนแฟนสาวของเขา (Kate Ashfield) ขอเลิกครับ