
ดู Fast & Furious 9 ด้วยใจไร้คาดหวังตามเคยครับ ว่าตามจริงคือผมไม่ถึงกับเป็นแฟนหนังชุดนี้ คือดูทุกภาคได้แบบเพลินๆ มาชอบมากหน่อยก็ภาค 5 และ 6 ต่อด้วย 7
ดู Fast & Furious 9 ด้วยใจไร้คาดหวังตามเคยครับ ว่าตามจริงคือผมไม่ถึงกับเป็นแฟนหนังชุดนี้ คือดูทุกภาคได้แบบเพลินๆ มาชอบมากหน่อยก็ภาค 5 และ 6 ต่อด้วย 7
และแล้ว NCIS: New Orleans ก็อำลาจอไปในปีที่ 7 ครับ ยอมรับว่าใจหายเหมือนกันเพราะผมเพิ่งอำลา Hawaii Five-0 ไปหยกๆ นี่ต้องมาโบกมือลา NCIS: NOLA อีก และยังเป็นการอำลาไปพร้อมๆ กับช่อง Fox ไทยด้วย เหมือนอะไรที่คุ้นเคยพากันอำลาไปในเวลาไล่ๆ กัน
ตอนแรกแอบหวั่นใจอยู่เหมือนกันว่าปีนี้จะออกมาสนุกไหม เพราะ Zoe McLellan เจ้าของบทเมเรดิธ โบรดี้ เดินออกจากซีรี่ส์ไป เลยกลัวว่าบรรยากาศครอบครัวและอะไรหลายๆ อย่างที่สร้างไว้ตั้งแต่ปีแรกจะเจือจางลง
ปีแรกถือว่าเปิดตัวได้ประทับใจดีครับ สำหรับซีรี่ส์ชุดที่แยกออกมาจาก NCIS ที่ตอนนี้ซีรี่ส์ต้นฉบับก็ปาเข้าไป 14 ปีแล้วครับ ส่วนเรื่องนี้แม้จะมาทีหลัง แต่หลายอย่างก็ถือว่าทำออกมาสนุกได้มาตรฐานกำลังดีเลย
ยอมรับครับว่าอยากดู NCIS: New Orleans มาก คือเหตุผลจริงๆ ที่ผมเอา NCIS กลับมาดูใหม่ก็คือดูเพื่อนำร่องทางอารมณ์ก่อนจะดูภาค New Orleans นี่แหละ (เพราะชุด New Orleans ได้รับการเปิดตัวที่ NCIS ปี 11 ก่อนจะมีภาคแยกมาเป็นของตัวเอง)
ผมรู้จัก Chadwick Boseman เป็นครั้งแรก จากหนังเรื่องนี้ครับ
ฉากที่ผมอยากดูที่สุดใน Fast and Furious 7 คือฉากสรุปส่งท้ายบทของ Paul Walker ครับ
ภาคนี้ดูแล้วนึกถึงพวก Step Up น่ะครับ เพราะตัวละครเป็นชุดใหม่ นำโดย ฌอน บอสเวลล์ (Lucas Black) หนุ่มจอมซ่าส์นักซิ่งจากอลาบาม่าที่ต้องระเห็จไปอยู่กับพ่อที่โตเกียวหลังก่อเรื่องใหญ่โต แล้วในโตเกียวนี่เองครับเขาก็หนีไม่พ้นเรื่องซิ่งๆ หลังจากได้พบกับ ฮาน (Sung Kang) เซียนรถแข่งที่เห็นแววในตัวฌอน แต่ก็แน่ล่ะครับว่า จะอยู่ที่ไหนฌอนก็ยังไม่วายโดนเจ้าถิ่นตัวแสบมาราวีอยู่ดี
พล็อตคุ้นเคยครับ ประมาณว่าคนกลุ่มหนึ่งต้องมารวมตัวกันเอาชีวิตรอดในพื้นที่ปิดตาย จะออกไปก็ไม่ได้ เพราะมีตัวประหลาด, สิ่งชั่วร้าย หรืออะไรต่อมิอะไรมารุมล้อมพร้อมจะกินโต๊ะพวกเขา