ว่ากันตามความรู้สึกเลยคือ ภาคนี้ไม่มันส์เท่าไหร่ครับ
ว่ากันตามความรู้สึกเลยคือ ภาคนี้ไม่มันส์เท่าไหร่ครับ
เรื่องนี้ถือเป็นการรีเมคของรีเมคอีกทีครับ ต้นฉบับดั้งเดิมเลยคือ The Mutiny of the Bounty ที่สร้างในปี 1916 จากนั้นก็มีการสร้างใหม่ในปี 1933, 1935 และ 1962 ซึ่งฉบับที่คนรู้จักมากที่สุดก็คือของปี 1935 ครับ ฉบับนั้นนำแสดงโดย Charles Laughton และ Clark Gable และได้รางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปครอง
การดูหนังป๋า Liam Neeson ของผมในระยะหลังๆ นี่อารมณ์มันจะคล้ายๆ กับตอนดูหนังยุคหลังของพี่ Steven Seagal น่ะครับ (หมายถึงยุคหลัง Under Siege แต่ก่อนถึงยุคหนังลงแผ่นน่ะนะครับ) คือไม่คาดหวังว่ามันจะเจ๋งแจ๋วแหว๋วอะไร แต่ขอให้ดูเอามันส์ได้สักเพลินนึงก็ดีใจแล้ว และสำหรับ The Ice Road เรื่องนี้ก็ถือว่าพอจะได้สักหนึ่งเพลินครับ
เคยดู Cold Pursuit รอบหนึ่งแล้วไม่ได้ติดใจอะไรมาก แต่นี่เอามาดูอีกสักรอบเผื่อจะรู้สึกดีขึ้นครับ เพราะระยะหลังนี่หนังของป๋า Liam Neeson ดูสนุกน้อยลงเรื่อยๆ
ดูเรื่อง Blacklight นี่ก็เพราะป๋า Liam Neeson ล้วนๆ ครับ ส่วนหนังจะสนุกมากสนุกน้อยค่อยว่ากันอีกที
ดู Memory แบบไม่คาดหวังครับ เป็นการดูแบบเพลย์เซฟ เพราะหนังระยะหลังของป๋า Liam Neeson มักอยู่ในระดับดูได้ แต่ไม่เด็ดแบบจัดๆ และสำหรับเรื่องนี้ก็ถือว่าตามนั้นครับ ไม่ได้สนุกแบบสุดๆ แต่อาจเป็นเพราะผมไม่คาดหวังนี่แหละเลยรู้สึกโอเคกับหนังมากกว่าที่คิด ดูจบแล้วไม่รู้สึกผิดหวัง
Liam Neeson กับหนังแนวประจำของเขาครับ 10 กว่าปีที่ผ่านมานี้ป๋าแกตะบันบู๊โดยเฉลี่ยคือปีละเรื่องกว่าๆ จนอดคิดไม่ได้ครับว่าทำไมมีคนขยันมาหาเรื่องป๋าเขาบ่อยจัง จริงๆ โหงวเฮ้งป๋าเขาออกจะดูมีบารมีนะ ดูเป็นคนมีของ ไม่น่ามีใครมาหาเรื่องถี่แบบนี้ (555)
หลังดู The Marksman จบ ผมมีความรู้สึก 2 แบบเกิดขึ้นครับ แยกออกเป็น รู้สึกต่อตัวหนัง กับ รู้สึกต่อตัวเรื่อง
แฮร์รี่ โรว์ลิ้ง (Liam Neeson) กับสมาชิกโจรในแก๊งอีก 3 คนที่ร่วมกันปล้นมาแล้วหลายครั้งหลายหน แต่งานครั้งล่าสุดกลับเกิดความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง ส่งผลให้พวกเขาต้องเสียชีวิตกันทั้งหมด
ดูจบแล้วตระหนักเลยครับว่า “Men in Black ไม่ใช่หนังที่ใครจะมาทำก็ได้”