อีกหนึ่งหนังที่ดูแล้วชอบแบบไม่ทันตั้งตัว และใช่ครับ มันคือหนังแนว “ว่าด้วยช่วงหนึ่งของชีวิตคน” นั่นเอง
อีกหนึ่งหนังที่ดูแล้วชอบแบบไม่ทันตั้งตัว และใช่ครับ มันคือหนังแนว “ว่าด้วยช่วงหนึ่งของชีวิตคน” นั่นเอง
ถือเป็นหนังเรื่องแรกๆ ครับที่ทำให้ผมรู้จักกับคำว่าทฤษฎีสมคบคิด (Conspiracy Theory) ซึ่งนิยามง่ายๆ ได้ว่าเป็นเหมือนข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับเหตุการณ์หรือเรื่องราวต่างๆ ที่ยังหาข้อสรุปชี้ชัดไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐ ภาคการเมือง ซึ่งก็จะมีคนสังเกตสังกาจับหลักฐานพยานและข้อมูลเท่าที่จะหาได้ เอามาประมวลเข้าด้วยกันแล้วคาดกันไปว่าเรื่องนี้อาจเกิดจากแบบนี้แบบนั้น…
โรเบอร์ต้า กลาส (Rosanna Arquette) แม่บ้านที่ชีวิตค่อนข้างน่าเบื่อ สิ่งเดียวที่พอจะทำให้ชีวิตเธอดูมีอะไรขึ้นมาบ้างคือการอ่านประกาศต่างๆ ตามหน้าหนังสือพิมพ์ และประกาศหนึ่งสะดุดตาเธอครับ มันคือประกาศตามหา “ซูซาน” มันทำให้เธออยากรู้ว่าซูซานคือใคร เป็นคนแบบไหน มีชีวิตแบบไหน จนเธอถึงขั้นตามรอยเพื่อไปสังเกตดูซูซานตัวจริง (Madonna)
โดยรวมๆ ผมชอบปี 7 ลดลงกว่าปีก่อนๆ ครับ แล้วค่อยมาโอเคอีกทีในปี 9 ส่วนปี 8 นี่ผมดูๆ หยุดๆ อยู่หลายรอบเหมือนกันกว่าจะดูจนจบซีซั่น
บทหนังเรื่องนี้ถือกำเนิดจากประสบการณ์ตรงของ Daniel Pyne ผู้เขียนบทหนังเรื่องนี้ครับ เพราะเขาเคยเจอกับผู้เช่าที่แสนจะร้ายกาจจนเขาต้องพยายามขับไล่ให้ออกไป แต่ไม่ว่าจะยังไงผู้เช่าคนนี้ก็ไม่ยอมออกแต่โดยดี
ว่าตามจริงหนังเรื่องนี้มีไอเดียตั้งต้นที่ดีครับ สามารถทำให้เป็นหนังแนวสร้างแรงบันดาลใจหรือหนัง Feel Good ได้แบบสบายๆ เลย
สำหรับหนังสยองหลายๆ เรื่องแล้ว ภาคต่อจะก่อกำเนิดเมื่อภาคแรกทำเงินเยอะพอ แต่กับ Scream แล้ว ไอเดียภาคต่อได้เกิดขึ้นตั้งแต่บทภาพยนตร์ภาคแรกเพิ่งเขียนเสร็จหมาดๆ