เมื่อ บัดดี้ “เอซ” อิสราเอล (Jeremy Piven) ตัดสินใจจะมาเป็นพยานเพื่อเล่นงานมาเฟียใหญ่ เขาก็เลยกลายเป็นคนที่มีค่าหัวระดับ $1 ล้านเหรียญ ซึ่งมันก็มากพอที่จะทำให้สารพัดนักฆ่าตรงดิ่งมาเพื่อเก็บเขาให้ได้
เมื่อ บัดดี้ “เอซ” อิสราเอล (Jeremy Piven) ตัดสินใจจะมาเป็นพยานเพื่อเล่นงานมาเฟียใหญ่ เขาก็เลยกลายเป็นคนที่มีค่าหัวระดับ $1 ล้านเหรียญ ซึ่งมันก็มากพอที่จะทำให้สารพัดนักฆ่าตรงดิ่งมาเพื่อเก็บเขาให้ได้
ดีแลน ฟอร์เรสเตอร์ (Scott Eastwood) อดีตหน่วยรบซีลผู้มีปัญหาทางจิตได้ตัดสินใจแหกทัณฑ์บนไปงานศพน้องชายที่เกาะการ์เดี้ยน แล้วที่นั่นก็ดันมีผู้ร้ายกลุ่มหนึ่งบุกไปจับคนในงานเพื่อตามหาอะไรบางอย่างที่น้องของดีแลนซ่อนไว้ เขาเลยต้องหาทางช่วยผู้คน รวมถึงไขปริศนาว่าน้องชายซ่อนอะไรเอาไว้กันแน่
ถือเป็นหนังที่ผมรู้สึกสมประสงค์มากๆ เรื่องหนึ่งครับ ประมาณว่าตอนดูตัวอย่างคาดหวังอะไรไว้ก็ได้ตามนั้นเป๊ะ ไม่ขาดแล้วก็ไม่เกิน
แม้หนังระยะหลังๆ ของพี่ Nicolas Cage จะไม่ค่อยเข้าตา แต่ผมก็ยังตามไปดูเสมอครับ อารมณ์เหมือนเป็นคนรู้จักเก่าแก่ที่ติดตามกันมานาน ยังไงใจก็ยังนึกถึงและพร้อมจะแวะไปให้กำลังใจเสมอหากมีโอกาส
เหตุผลสำคัญที่ทำให้ผมรู้สึกว่า Creed (ภาคแยกของ Rocky) ที่กำลังจะฉายตอนปลายปีเป็นหนังน่าดู ก็เพราะหนังกำกับและเขียนบทโดย Ryan Coogler ผู้ที่เคยสำแดงฝีมือทำหนังเรื่อง Fruitvale Station ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมมากๆ
และแล้วฤดูซัมเมอร์ก็เวียนมาบรรจบอีกครั้งนะครับ หนังใหญ่เตรียมกระหน่ำมาให้เราชมกัน โดยมีเรื่องนี้เป็นหัวแถวมาโกยเงินก่อนเพื่อน ถ้าดูจากแนวโน้มก็น่าจะรับทรัพย์ล่ะครับ กระแสดีจะตาย ส่วนตัวหนังเองนั้นแม้จะมีการปล่อยแผ่นผีออกมาจน พี่ Hugh Jackman ออกมาบ่นน้อยใจก็เถอะ แต่ยังไงคนที่ตั้งใจจะเดินเข้าโรงไปดูก็คงไม่พลาดล่ะนะครับ ซึ่งผมก็ค่อนข้างเชียร์เลยล่ะ เพราะหนังออกมาสนุก ครบรส มันส์คุ้มค่าตั๋วดี
บอกตรงๆ ว่าผมนับถือพี่ Paul W.S. Anderson แกจริงๆ เพราะแกสามารถเดินหน้าสร้างหนังชุดนี้ออกมาขายได้เรื่อยๆ แม้รายได้จะไม่ล้นและคนดูจะไม่ถึงกับรัก แต่ด้วยความที่พี่แกขยันทำ และตอนทำแต่ละตอนออกมา แม้จะเบาพล็อตแต่ก็ยังตอบสนองความต้องการของคนดูกลุ่มหนึ่งได้ดีพอสมควร เรียกว่าแม้หนังจะไม่ถึงกับยอด แต่ดูแล้วพอจะสะใจบ้าง พอสยองบ้างคนดูกลุ่มนั้นก็พร้อมจะตามไปดูได้เรื่อยๆ