ป้ายกำกับ: Jonathan Pryce

What a Girl Wants (2003) ว็อต อะ เกิร์ล ว้อนท์ส ปรารถนา… ของสาวหัวใจใสใส

หนังวัยรุ่นผสมอารมณ์ขันที่ยุคนั้นตอนหนังออกฉายนี่รู้สึกว่าหนังแนวนี้มีเยอะนะครับ เยอะจนแอบรู้สึกว่ามันเกร่อเลยล่ะ แตพอมองมาตอนนี้กลับรู้สึกคิดถึงหนังแนวนี้จังเลยแฮะ ของใหม่ๆ ก็ไม่ค่อยมีออกมา ก็ต้องเอาของเก่ามาดูซ้ำน่ะนะครับ (เพราะเรื่องนี้จัดตั้งแต่ตอนเข้าโรงครับ)

G.I. Joe: Retaliation (2013) จี.ไอ.โจ สงครามระห่ำแค้นคอบร้าทมิฬ

ปกติถ้าเป็นหนังฟอร์มยักษ์ฟอร์มบิ๊กผมมักจะพยายามร่ายยาวกว่าหนังทั่วไป แต่กับเรื่องนี้สารภาพว่าไม่มีอะไรจะร่ายจริงๆ ครับ

G.I. Joe: The Rise of Cobra (2009) จี.ไอ.โจ สงครามพิฆาตคอบร้าทมิฬ

ต้องยกให้เรื่องนี้เป็นหนังสมหวังแห่งปีครับ… สมหวังนี่ไม่ได้แปลว่าชื่นชอบถูกใจอะไรหรอกนะครับ แต่หมายความว่า กะคร่าวๆ ว่าหนังจะออกมาอย่างไร มันก็ออกมาระดับนั้นเป๊ะ ไม่มีผิดคาด

Bedtime Stories (2008) มหัศจรรย์นิทานก่อนนอน

Bedtime Stories หนังแฟนตาซีน่ารักดูสนุกสไตล์ Adam Sandler โดยพี่ท่านมารับบท สกีตเตอร์ บรอนสัน ช่างซ่อมบำรุงประจำโรงแรม (ที่จริงๆ แล้วที่ดินผืนนั้นเคยเป็นของพ่อเขา)

The Brothers Grimm (2005) ตะลุยพิภพมหัศจรรย์

โดยฟอร์มของหนังถือว่าแข็งปั๋งเอามากๆ นะครับ ดารานำมีชื่อทั้ง Matt Damon, Heath Ledger ซ้ำยังได้ Monica Bellucci ที่กำลังฮ็อตสุดๆ ในช่วงนั้นจากความดังของ The Matrix 2 ภาคหลัง

Pirates of the Caribbean: At World’s End (2007) ผจญภัยล่าโจรสลัดสุดขอบโลก

บทสรุปของไตรภาค (แต่ยังไม่ใช่ตอนสุดท้าย) ของหนังชุดโจรสลัดที่ดังที่สุดในโลกน่ะนะครับ เมื่อเหล่าโจรสลัดที่นำโดย กัปตันเฮคเตอร์ บาร์บอสซ่า (Geoffrey Rush), วิลล์ เทอร์เนอร์ (Orlando Bloom) และ อลิซาเบธ สวอนน์ (Keira Knightley) ต้องเดินทางไปยังสุดขอบโลกเพื่อช่วยกัปตันแจ็ค สแปร์โรว์ (Johnny Depp) กลับมาจากโลกแห่งความตาย

Pirates of the Caribbean: Dead Man’s Chest (2006) สงครามปีศาจโจรสลัดสยองโลก

หนังภาคต่อของหนังผจญภัยที่ภาคแรกทำเอาไว้ไม่เลวครับ แต่ผมก็ไม่ได้ชอบมากมายนะ คือภาคแรกก็สนุกแหละครับ แต่รู้สึกเลยว่ามันเป็นหนัง Disney ตรงที่มันจะกั๊กๆ ทำอะไรก็แบบยั้งๆ ไม่เต็มที่เหมือนพวก The Mummy ที่ใส่อะไรลงมาเต็มที่กว่า

Tomorrow Never Dies (1997) 007 พยัคฆ์ร้ายไม่มีวันตาย

เมื่อเจมส์ บอนด์กลับมาโด่งดังทั่วโลกอีกครั้งใน Goldeneye นั่นเป็นทั้งเรื่องดีและเรื่องกดดันสำหรับทีมงานครับ เพราะนั่นแปลว่าทั้งบริษัทออกทุน (MGM) และคนดูต่างคาดหวังในหนังบอนด์ตอนต่อไป ซึ่งคนที่ต้องรับภาระหนักที่สุดก็คือ Michael G. Wilson ลูกเลี้ยงของ Albert R. Broccoli ผู้ล่วงลับ เพราะเขาต้องขึ้นแท่นควบคุมดูแลทุกสิ่งแทน Broccoli ผู้คุมงานหนังบอนด์มากว่า 35 ปี