เข้าทางผมอีกแล้วครับเรื่องนี้ สำหรับหนังแนวบอกเล่าชีวิตช่วงหนึ่งของใครสักคน
เข้าทางผมอีกแล้วครับเรื่องนี้ สำหรับหนังแนวบอกเล่าชีวิตช่วงหนึ่งของใครสักคน
The Curse of Bridge Hollow หนังครอบครัวแนวปราบปีศาจประจำเมืองครับ เรื่องของครอบครัวกอร์ดอนที่เพิ่งย้ายเข้ามาในเมืองบริดจ์ฮอลโลว์ และเผอิญว่าบ้านใหม่ของพวกเขามีวัตถุที่กักปีศาจนามว่าสติงกี้แจ๊คซ่อนเอาไว้ แล้วก็ตามสูตรครับ พวกเขาดันปล่อยมันออกมา ทำให้คุณพ่อ (Marlon Wayans) และคุณลูก (Priah Ferguson) ต้องวิ่งพล่านเมืองเพื่อหาทางปราบปีศาจตนนี้ให้ได้ ก่อนจะสายเกินไป
ภาคแรกทำผมประทับใจไว้เยอะครับ ดังนั้นก่อนดู Pitch Perfect 2 ผมก็แอบคาดหวังเป็นธรรมดา ไหนจะโกยเงินถล่มทลายซะขนาดนั้น (แต่โดยส่วนตัวคิดว่าที่ภาคนี้ทำเงินอย่างใหญ่ ก็เพราะบุญเก่าที่ภาคแรกสะสมไว้ส่วนหนึ่ง)
ภาคต่อของ Bruce Almighty ที่จับเอาตัวละคร อีวาน แบ็กซ์เตอร์ (Steve Carrell) ที่ขโมยซีนไปได้พอตัวในภาคแรกมารับบทนำครับ คราวนี้อีวานได้รับเลือกเป็นวุฒิสมาชิก แล้วเขาก็ตั้งมั่นจะทำงานเพื่อประชาชน อีกทั้งยังอธิษฐานต่อพระเจ้าว่าเขาขอโอกาสที่จะได้ช่วยเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้นอีกสักหน่อยก็ยังดี
ผมทำใจล่วงหน้าก่อนเข้าโรงแล้วว่าหนังของพี่ Jim Carrey เรื่องนี้คงไม่ฮาแตกเท่าสมัยเล่น Dumb and Dumber, Liar Liar หรือ Bruce Almighty พอดูจบก็พบคำตอบว่าเป็นแบบนั้นจริงๆ แหละครับ หนังขำบ้างแต่ก็ไม่มาก จึงขอสาธยายแจ้งไว้ในย่อหน้าแรกเลยนะครับว่าอย่าดูโดยคาดหวังความขำ
การที่เราเอาหนังสักเรื่องมาดูซ้ำเดือนละหน ทุกเดือนตั้งแต่ได้แผ่นมา นั่นน่าจะบ่งบอกได้ว่าเรา “ตกหลุมรัก” หนังเรื่องนั้นเข้าแล้ว และ Pitch Perfect คือหนึ่งในหนังที่ผมตกหลุมรักครับ
ในบรรดาหนังที่พี่ Jim Carrey แสดงนำ ดูเหมือนผมจะขำกับเรื่องนี้น้อยครั้งที่สุดยังไงก็ไม่รู้ซี
สิ่งแรกที่ผมเรียกหาหลังจากดูหนังเรื่องนี้จบคือ ยาพาราซักสองเม็ดครับ (เหอ เหอ เหอ ดูหนังซะจับไข้เลยผม)