ภาคแรกประสบความสำเร็จอย่างดี แต่คงไม่มีใครคาดคิดว่าภาคต่อนี้จะประสบความสำเร็จยิ่งกว่า มิหนำซ้ำยังกลายเป็นตำนานบทสำคัญที่เปลี่ยนคำนิยามของ “ตงฟางปุ๋ป้าย” ไปตลอดกาล
ภาคแรกประสบความสำเร็จอย่างดี แต่คงไม่มีใครคาดคิดว่าภาคต่อนี้จะประสบความสำเร็จยิ่งกว่า มิหนำซ้ำยังกลายเป็นตำนานบทสำคัญที่เปลี่ยนคำนิยามของ “ตงฟางปุ๋ป้าย” ไปตลอดกาล
กงเหว่ย (หลี่เหลียนเจี๋ย, Jet Li) ตำรวจที่ปลอมตัวแทรกซึมเข้าแก๊งโจรต่างๆ ตามที่เบื้องบนจะมอบหมายมา โดยที่ภรรยาและลูกของเขาไม่รู้ และงานล่าสุดคือการแทรกตัวเข้าไปในแก๊งของโปกวง (ยวี๋หรงกวง, Yu Rongguang) หัวหน้าโจรที่แสนเหี้ยมในฮ่องกง เขาไม่รู้เลยครับว่างานครั้งนี้กำลังจะนำอันตรายครั้งใหญ่มาสู่ครอบครัวของเขา
ผมเพิ่งรู้ครับว่าหนังเรื่องนี้มันมี 2 เวอร์ชั่น
ก่อนเปิด 3 อหังการ์ เจ้าสุริยา – The Warlords ดูนั้นผมลืมตั้งหลักไปนิดนึงครับ ลืมไปว่าหนังน่าจะหนักไม่ใช่น้อยเพราะเป็นแนวสงครามว่าด้วยการฆ่าฟันล้างผลาญ ไหนจะมีเรื่องปมขัดแย้งระหว่างตัวละครอีก เลยทำให้พอดูไปสักพักก็รู้สึกไหล่ล้าบ่าหนักขึ้นมาจนได้
ลุงตั๊ก (หยวนหัว, Wah Yuen) อาจารย์กังฟูไปประกอบอาชีพเป็นหมอแผนโบราณที่อเมริกาครับ ทีนี้อยู่มาวันหนึ่งอดีตศิษย์ของเขาอย่างจอนนี่ (Jerry Trimble) เกิดคิดจะล้างครู เลยมาท้าซัดกับลุงตั๊ก – อันที่จริงคือพาพวกมารุมมากกว่า – แต่ยังดีที่แอนนา (Anne Rickets) สาวอเมริกันผ่านมาเห็นเลยช่วยลุงตั๊กเอาไว้
ผมเปิดเรื่องนี้ดูแบบแก้เหงาครับ ประมาณว่าเปิดหนังอะไรก็ได้เป็นเพื่อนระหว่างทำงาน ไม่ได้ตั้งใจดูอะไรแบบเป็นชิ้นเป็นอัน แต่ไปๆ มาๆ หนังดันดูเพลินกว่าที่คาด เรียกความสนใจจากผมได้มากกว่าที่คิด
เรื่องราวของ ดาบมังกรหยก ฉบับจอใหญ่ครับ ได้ หลี่เหลียนเจี๋ย มารับบทเตียบ่อกี้ ผู้ทีี่ต้องสูญเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่ยังเด็กเพราะถูกชาวยุทธบีบคั้นให้เผยที่ซ่อนของราชสีห์ขนทองเจี่ยซุ่น
ตอนแรกผมนึกว่า พยัคฆ์ตะลุยพยัคฆ์ หรือ Flying Swords of Dragon Gate เป็นการรีเมค คัมภีร์แดนพยัคฆ์ (Dragon Inn) แต่ไปๆ มาๆ มันเป็นภาคต่อครับ
หนังแอ็กชั่นหมัดมวยของ หลี่เหลียนเจี๋ย หรือ Jet li กับบท ฮั้วหยวนเจี่ย วีรบุรุษชาวจีนที่ต่อสู้อย่างกล้าหาญกับชาวต่างชาติที่หมายจะมารุกรานอธิปไตยชาวจีน ไม่ว่าจะพวกตะวันตกที่ดูถูกว่าวัฒนธรรมชาวจีนช่างล้าหลัง ตัวก็เล็กจนพากันขนานนามว่าชาวจีนคือขี้โรคเอเซีย
หลังจากเฉินเจียลั่ว (เจิ้นเส้าชิว) ประมุขพรรคดอกไม้แดงรับ ปึงซีเง็ก หรือ ฟงไสหยก (หลี่เหลี่ยนเจี๋ย) เป็นลูกบุญธรรมแล้วก็พาเข้าสู่พรรค แต่เมื่อได้เข้าพรรคแล้ว เขากลับพบว่าแม้แต่ในพรรคเองก็เต็มไปด้วยความขัดแย้ง มีคลื่นทั้งใต้น้ำและบนน้ำ จนในที่สุดเขาจึงต้องลงมือพิทักษ์ความถูกต้องบนแนวทางของตนเอง