ป้ายกำกับ: Jeremy Renner

Tag (2018) ก๊วนแท็คเกม เพื่อนแท้ แพ้ไม่เป็น

สมัยเด็กๆ เคยเล่น “วิ่งไล่จับ-แปะแล้วเป็น” อะไรแบบนั้นไหมครับ ถ้าใครเคยผ่านการละเล่นแบบนั้นมา ผมว่าก็น่าจะเพลินกับหนังเรื่อง Tag นี้ได้ไม่ยาก

American Hustle (2013) โกงกระฉ่อนโลก

American Hustle เป็นหนังว่าด้วยการหลอก การตุ๋น แต่มันไม่ใช่หนังโจรกรรมแบบ Ocean’s Eleven ครับ แต่เป็นหนังว่าด้วยชีวิตนักตุ๋นกลุ่มหนึ่ง ที่ต่างคนต่างก็มีปมของตนเอง และปมเหล่านั้นก็ส่งผลต่อชีวิตและงานของพวกเขา อีกทั้งนำมาสู่เรื่องวุ่นวายสารพัด

Hansel & Gretel: Witch Hunters (2013) ฮันเซล & เกรเทล นักล่าแม่มดพันธุ์ดิบ

นี่ก็เป็นหนึ่งในขบวนหนังฮอลลีวู้ดที่เอานิทานเก่าๆ มาเล่าใหม่ แบบใส่ความมันส์เพิ่มขึ้น เรื่องไหนใส่บู๊ได้ก็ใส่บู๊ (ขนาด Snow White ผู้อ่อนหวานไร้เดียงสาก็ยังโดนจับไปใส่บู๊ได้ครับ 555) หรือเรื่องไหนใส่เลือดเพิ่มโหดได้ก็จัดกันไปอย่างเรื่องนี้เป็นต้น

The House (2017) เดอะ เฮาส์ เปลี่ยนบ้านให้เป็นบ่อน

ดูเรื่องนีี้แล้วบังเกิด 2 ห้วงอารมณ์ขึ้นมาพร้อมๆ กันครับ ห้วงแรกคือห้วงอารมณ์ที่มีต่อหนัง กับอีกห้วงก็คือ ห้วงอารมณ์ที่มีต่อเรื่องราว ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในหนัง (ไม่รู้จะถึงขั้นอินเนอร์ไหม แต่ถึงไม่ใช่ก็ใกล้เคียง)

Wind River (2017) ล่าเดือด เลือดเย็น

ดูหนังเรื่องนี้แล้วเกิดอารมณ์หดหู่ทับซ้อนกันหลายชั้น ชั้นแรกก็คือรอบฉายน้อยมาก จนเป็นไปได้ว่านาทีที่ผมเขียนเสร็จนี่หนังน่าจะหายไปจากโรง หรือไม่ก็เกือบๆ หายไปเต็มที (การได้ดูขณะที่ยังฉายโรงนี่ ถือว่ามีบุญในระดับหนึ่งทีเดียวครับ)

Mission: Impossible – Rogue Nation (2015) มิชชั่น อิมพอสซิเบิ้ล ปฏิบัติการรัฐอำพราง

สรุปว่า 4 = 1 > 5 > 3 > 2 ครับ

ไม่ได้ใบ้หวย แต่นั่นคือลำดับความชอบของหนังชุด Mission: Impossible เรียงจากมากสุดลงไปครับ

Mission: Impossible – Ghost Protocol (2011) มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล – ปฏิบัติการไร้เงา

พูดได้เต็มปากว่าชอบภาคนี้สุดๆ จนออกจะชอบมากกว่าภาคแรกที่ผมเคยยกให้เป็นภาคที่เจ๋งสุดของหนังชุดนี้น่ะนะครับ

Arrival (2016) ผู้มาเยือน

เมื่อพิจารณาดีๆ แล้วก็พบว่าหนังไซไฟว่าด้วยมนุษย์ต่างดาวมาเยือนโลกเรื่องนี้สามารถทำออกมาเป็นหนังวิทยาศาสตร์ผสมระทึกบวกด้วยไขปมปริศนาได้… แต่ทีมงานไม่ได้เลือกจะเล่าไปในทิศทางนั้นครับ