
ดูจบไปแล้วหนึ่งรอบครับ และคงต้องซ้ำอีกรอบในเวลาไม่นาน ถ้าถามว่าชอบไหม ก็ตอบได้ว่า “ผมชอบนะ” หนังจัดว่าสนุกดีแม้จะกินเวลา 4 ชั่วโมงก็เถอะ แต่หากใครที่ชื่นชอบเรื่องราวของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ของ DC ผมว่าหนังน่าจะคุ้มเวลาในการดูสำหรับท่านครับ
ดูจบไปแล้วหนึ่งรอบครับ และคงต้องซ้ำอีกรอบในเวลาไม่นาน ถ้าถามว่าชอบไหม ก็ตอบได้ว่า “ผมชอบนะ” หนังจัดว่าสนุกดีแม้จะกินเวลา 4 ชั่วโมงก็เถอะ แต่หากใครที่ชื่นชอบเรื่องราวของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ของ DC ผมว่าหนังน่าจะคุ้มเวลาในการดูสำหรับท่านครับ
หนังแนวชีวประวัติที่บอกเล่าเรื่องราวของ ศรีนิวาสะ รามานุจัน ชาวอินเดียผู้เป็นอัจฉริยะแห่งโลกคณิตศาสตร์ เขาสามารถสร้างสรรค์ผลงานออกมากว่า 4,000 ชิ้นครับ ไม่ว่าจะงานวิจัยหรือทฤษฎีบทต่างๆ
อีกหนึ่งหนังแนวสร้างแรงบันดาลใจที่สร้างจากเรื่องจริงของ เจสซี่ โอเว่น นักวิ่งผิวสีที่เดินทางไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเมื่อปี 1936 ที่จัดในในประเทศเยอรมนี อันเป็นยุคสมัยที่อดอล์ฟ ฮิตเลอร์และพรรคนาซีกำลังเรืองอำนาจ
หนังสร้างจากเกมกระดานยอดฮิตของอเมริกันครับ (ส่วนตอนนี้เกมก็ขยับขยายมาอยู่บนเครื่อง PC แล้ว) เนื้อเรื่องของหนังก็ว่าด้วยจอมวายร้ายโพรฟิออน (Jeremy Irons) ที่หมายจะครอบครองอาณาจักรอิซเมอร์มาเป็นของตน แต่ราชินีองค์น้อยแห่งอาณาจักร (Thora Birch) ก็ไม่ยอมศิโรราบต่อมันโดยง่าย ซึ่งทางเดียวที่จะสามารถต่อกรกับโพรฟิออน ก็คือต้องหาคฑาแห่งเซฟริลล์ที่มีอำนาจในการควบคุมมังกรอันทรงฤทธิ์มาเพื่อรับมือกับมัน
อันนี้ขอยอมรับบอกก่อนล่วงหน้าเลยนะครับว่าตัวหนัง ฟอร์มหนังหรืออะไรต่างๆ ของ Eragon ไม่ดึงดูดให้ผมสนใจใคร่ดูซักเท่าไหร่ อาจจะเพราะมันออกมาแนวเดิมๆ มั้งครับ คือมันประมาณ Lord น่ะนึกออกใช่มั้ยครับ ภาพอาณาจักรยุคอัศวิน แล้วก็มีมังกรบิน ซึ่งก็ให้อารมณ์ประมาณ Dragon Heart กล่าวคือมันเป็นอะไรที่เห็นๆ กันมาแล้วเป็นส่วนมาก ก็เลยเฉยๆ
บอกตรงๆ ว่าพอคว้าหนังชุด Die Hard มาดูต่อกัน 3 ภาครวดแล้วมันเหนื่อยยังไงก็ไม่ทราบนะครับ ยิ่งดูภาคนี้นี่เหนื่อยโคตรๆ เพราะคราวนี้พี่จอห์น แมคเคลน (Bruce Willis) แกไม่ได้พักเลยน่ะฮะ วิ่งทั่วนิวยอร์คจนสงสัยว่าพี่แกไปอัดยาบ้ามารึเปล่า ถึงได้คึกเสมอต้นเสมอปลายแบบนี้
เกม Assassin’s Creed สำหรับผมแล้วถือเป็นปรากฏการณ์แห่งความมันส์ครับ เล่นแล้วติดเลย แล้วก็ตามเล่นทุกภาคเรื่อยมา ยิ่งภาคหลังๆ นี่โลกในเกมมันกว้างขึ้น ผมก็ใช้เวลาเดินเล่นในเกมเป็นชั่วโมงๆ ประหนึ่งเป็นที่เดินเล่นเปลี่ยนบรรยากาศทีเดียว
หลายคนถามกันเข้ามาว่าดูหรือยัง เลยขอจัดให้ตามคำขอนะครับ และในเบื้องต้น บอกได้เลยว่าหนังดูเวิร์กกว่าตอนฉายโรงมากพอสมควร คือไอ้อะไรต่อมิอะไรที่ควรจะมีแต่ดันไม่มีในฉบับโรง ก็ได้รับการใส่ลงมาในฉบับนี้
การพบกันระหว่างพี่แบทกับพี่ซุปนี่ถือเป็นแมทช์นัดสำคัญที่คอหนังรุ่นผมรอกันมานานมากๆ ครับ เพราะเจอยั่วให้อยากหลายทีเหลือเกิน
แม้นี่จะไม่ได้เป็นภาคต่อโดยตรงของหนัง The Three Musketeers ปี 1993 ก็ตามน่ะนะครับ แต่ทว่า หากจัดลำดับตามนิยายของ Alexandre Dumas แล้ว นี่ก็ถือเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อมาของเหล่า 3 ทหารเสือ ซึ่งตอนนี้ ออร์โธส (John Malkovich), ปอร์โธส (Gérard Depardieu) และ อารามิส (Jeremy Irons) ก็ได้แก่ตัวลง และปลดเกษียณตัวเองไปทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการในบั้นปลาย ส่วนดาตาญัง (Gabriel Byrne) ก็เติบใหญ่จากทหารหนุ่มก็ได้กลายมาเป็น หัวหน้าทหารเสือ องค์รักษ์ส่วนพระองค์ไปแล้ว