เมื่อซันนี่ ฟอน บิวโลว์ (Glenn Close) สาวชั้นสูงผู้มั่งคั่งป่วยหนักจนโคม่า บรรดาลูกๆ ของเธอก็สงสัยว่า เคลาส์ (Jeremy Irons) สามีใหม่ของซันนี่อาจเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ เพราะหากซันนี่ตาย เคลาส์ก็จะได้รับมรดกมูลค่า $14 ล้านเหรียญ
เมื่อซันนี่ ฟอน บิวโลว์ (Glenn Close) สาวชั้นสูงผู้มั่งคั่งป่วยหนักจนโคม่า บรรดาลูกๆ ของเธอก็สงสัยว่า เคลาส์ (Jeremy Irons) สามีใหม่ของซันนี่อาจเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ เพราะหากซันนี่ตาย เคลาส์ก็จะได้รับมรดกมูลค่า $14 ล้านเหรียญ
ผมจำได้ว่าก่อน The Flash จะฉายนั้นมีกระแสเชิงบวกมากมายว่าหนังสนุกมาก ดีมาก แต่พอออกฉายหนังกลับไปไม่ได้ไกล ครั้นพอได้ดูก็พอเข้าใจน่ะครับ คือหนังมันก็สนุกใช้ได้นั่นแหละ แต่มันก็ไม่ได้ว้าวอะไร คือดูสนุกตามมาตรฐานของหนังซูเปอร์ฮีโร่ – ว่าตรงๆ ก็คือ สนุกตามมาตรฐาน แต่ไม่ได้พิเศษอะไร
เรื่องนี้หลายคนน่าจะอินครับ โดยเฉพาะใครที่เคยโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรหา
The French Lieutenant’s Woman เป็นหนังที่เก๋ไม่น้อยครับ เพราะมันบอกเล่า 2 เรื่องราวคู่ขนานไปพร้อมกัน
ดูจบไปแล้วหนึ่งรอบครับ และคงต้องซ้ำอีกรอบในเวลาไม่นาน ถ้าถามว่าชอบไหม ก็ตอบได้ว่า “ผมชอบนะ” หนังจัดว่าสนุกดีแม้จะกินเวลา 4 ชั่วโมงก็เถอะ แต่หากใครที่ชื่นชอบเรื่องราวของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ของ DC ผมว่าหนังน่าจะคุ้มเวลาในการดูสำหรับท่านครับ
หนังแนวชีวประวัติที่บอกเล่าเรื่องราวของ ศรีนิวาสะ รามานุจัน ชาวอินเดียผู้เป็นอัจฉริยะแห่งโลกคณิตศาสตร์ เขาสามารถสร้างสรรค์ผลงานออกมากว่า 4,000 ชิ้นครับ ไม่ว่าจะงานวิจัยหรือทฤษฎีบทต่างๆ
อีกหนึ่งหนังแนวสร้างแรงบันดาลใจที่สร้างจากเรื่องจริงของ เจสซี่ โอเว่น นักวิ่งผิวสีที่เดินทางไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเมื่อปี 1936 ที่จัดในในประเทศเยอรมนี อันเป็นยุคสมัยที่อดอล์ฟ ฮิตเลอร์และพรรคนาซีกำลังเรืองอำนาจ
หนังสร้างจากเกมกระดานยอดฮิตของอเมริกันครับ (ส่วนตอนนี้เกมก็ขยับขยายมาอยู่บนเครื่อง PC แล้ว) เนื้อเรื่องของหนังก็ว่าด้วยจอมวายร้ายโพรฟิออน (Jeremy Irons) ที่หมายจะครอบครองอาณาจักรอิซเมอร์มาเป็นของตน แต่ราชินีองค์น้อยแห่งอาณาจักร (Thora Birch) ก็ไม่ยอมศิโรราบต่อมันโดยง่าย ซึ่งทางเดียวที่จะสามารถต่อกรกับโพรฟิออน ก็คือต้องหาคฑาแห่งเซฟริลล์ที่มีอำนาจในการควบคุมมังกรอันทรงฤทธิ์มาเพื่อรับมือกับมัน
อันนี้ขอยอมรับบอกก่อนล่วงหน้าเลยนะครับว่าตัวหนัง ฟอร์มหนังหรืออะไรต่างๆ ของ Eragon ไม่ดึงดูดให้ผมสนใจใคร่ดูซักเท่าไหร่ อาจจะเพราะมันออกมาแนวเดิมๆ มั้งครับ คือมันประมาณ Lord น่ะนึกออกใช่มั้ยครับ ภาพอาณาจักรยุคอัศวิน แล้วก็มีมังกรบิน ซึ่งก็ให้อารมณ์ประมาณ Dragon Heart กล่าวคือมันเป็นอะไรที่เห็นๆ กันมาแล้วเป็นส่วนมาก ก็เลยเฉยๆ
บอกตรงๆ ว่าพอคว้าหนังชุด Die Hard มาดูต่อกัน 3 ภาครวดแล้วมันเหนื่อยยังไงก็ไม่ทราบนะครับ ยิ่งดูภาคนี้นี่เหนื่อยโคตรๆ เพราะคราวนี้พี่จอห์น แมคเคลน (Bruce Willis) แกไม่ได้พักเลยน่ะฮะ วิ่งทั่วนิวยอร์คจนสงสัยว่าพี่แกไปอัดยาบ้ามารึเปล่า ถึงได้คึกเสมอต้นเสมอปลายแบบนี้