นี่คืองานกำกับชิ้นแรกของ John Woo หลังได้รับเทียบเชิญให้ไปทำหนังฮอลลีวู้ด
นี่คืองานกำกับชิ้นแรกของ John Woo หลังได้รับเทียบเชิญให้ไปทำหนังฮอลลีวู้ด
หนังเล็กๆ แนวแอ็กชันพะบู๊ที่ Jean-Claude Van Damme เป็นผู้นำแสดงในช่วงขาลงเรียบร้อยแล้ว
ก่อนอื่น นี่ไม่ใช่ภาค 2 ของหนัง Universal Soldier เมื่อปี 1992 นะครับ ในความจริงแล้วมันคือภาค 4 ต่างหาก!
เอ่อ อันดับแรก อย่าด่าผมเรื่องใช้ภาษาวิบัตินะครับ คือมันต้องมีบ้างบางอารมณ์ของชีวิตน่ะครับ ไม่งั้นเขียนไม่ไหลลื่น แต่ไม่ต้องห่วงฮะ เวลาเขียนงานส่งอาจารย์ผมเขียนคำถูกต้องตามหลักเสมอ … นี่ผมนั่งพล่ามอะไรเนี่ย (สงสัยจะหลอนครับ ช่วงนี้เขารณรงค์เรื่องใช้ภาษาอยู่ ผมนี่ตัววิบัติใช่ย่อย ก็เลยระวังตัวไว้หน่อย)
แล้วพี่ Jean-Claude Van Damme ของผมก็กลับมาร่วมงานกับผู้กำกับฉีเคอะ แห่งฮ่องกงอีกครั้งในหนังเรื่องนี้ครับ ต่อจาก Double Team เลยล่ะ
มันก็แปลกดีนะครับ คือหากลองมาเทียบเปรียบวัดระหว่างพี่ Jean-Claude Van Damme กับ Steven Seagal ซึ่งตอนนี้ก็สาละนเตี้ยลงไปพอๆ กันแล้วน่ะนะครับ แต่หากลองเทียบสไตล์งานและผลงานแล้ว ผมกลับรู้สึกว่าพี่ Seagal แกมีงานที่โอเคเยอะกว่า ดูสนุกเยอะกว่าพี่ Van Damme
ต่อกันมาเลยนะครับสำหรับหนังเรื่องนี้ของพี่ Van Damme ซึ่งนี่เป็นงานแสดงต่อจากเรื่อง Maximum Risk แล้วก็เป็นการร่วมงานกับผู้กำกับฮ่องกงอีกแล้วครับท่าน คืออย่างนี้นะฮะ ถ้าลองสังเกตดีๆ จะพบว่าพี่ Van Damme จะเป็นพระเอกให้กับหนังที่ผู้กำกับจากฮ่องกงมาทำในฮอลลีวู้ดทุกที เริ่มจาก Hard Target ของ John Woo ตามด้วย Maximum Risk ของ Ringo Lam แล้วก็เรื่องนี้ครับ
หลังจากผมทยอยเล่าหนังดูไม่ได้มาพักใหญ่ๆ ก็มาดูหนังที่พอจะสร้างความสนุกสนานให้คนดูได้บ้างดีกว่านะครับ จะได้มีอะไรดูกัน เพราะมาเลื่อนดูหลังๆ นี่มีแต่เตือนว่าอย่าดูทั้งนั้น อ้ะ อันนี้บอกแต่เนิ่นๆ ว่าพอดูได้ครับ พอทำเนาๆ
เรายังไม่จบกับพี่แกนะครับ พี่ Jean-Claude Van Damme ยังมีผลงานอีกหลายเรื่อง ดีบ้างไม่ดีบ้าง ไม่น่าสร้างออกมาบ้างแต่ก็เอาเถอะครับ ทำออกมาแล้วนี่เน้อะ
และนี่คือหนังที่สร้างจากเกมโคตรดัง จำได้มั้ยล่ะครับราวๆ 10 กว่าปีก่อน ถ้าท่านเป็นคอเกมล่ะก็ต้องจำได้ สมัยที่เครื่อง Super Famicom กำลังมาแรง กับเกม Street Fighter II โอย ตอนนั้นล่ะมันส์โคตรๆ ครับ มานั่งกดท่ายิงฮาโดเคนกันอุตลุด