
Hercules ถือเป็นการ์ตูน Disney ที่มีส่วนผสมทั้งสไตล์คลาสสิกดั้งเดิม และรสชาติป็อบๆ แบบคนรุ่นใหม่
Hercules ถือเป็นการ์ตูน Disney ที่มีส่วนผสมทั้งสไตล์คลาสสิกดั้งเดิม และรสชาติป็อบๆ แบบคนรุ่นใหม่
ยอมรับว่าตอนหนังออกฉายที่อเมริกาเล่นเอาผมอึ้ง เพราะหนังไต่อันดับขึ้นที่ 1 Box Office ประจำสัปดาห์ได้ ก็คาดไม่ถึงครับว่าด้วยฟอร์มหนังมันจะไต่กระไดไปถึงนั้นได้ แม้จะกำกับโดยลุง John Carpenter คนทำหนังสยองที่ดังจาก Halloween, The Fog และ The Thing แต่ลุงท่านก็อยู่ในช่วงขาลงมาตั้งนานแล้ว เห็นได้ขึ้นอันดับแบบนี้ก็อดดีใจด้วยไม่ได้ แม้จะเปิดตัวแค่ 9 ล้านก็เถอะ (ประมาณว่าช่วงนั้นมันฮาโลวีนครับ ไม่มีหนังสยองอะไรเข้าท่าเรื่องนี้เลยเข้าวิน)
สตีฟ เอเวอร์เรตต์ (Clint Eastwood) นักหนังสือพิมพ์วัยเก๋าที่กำลังหมดไฟ ติดเหล้า และไม่ค่อยเอางาน ล่าสุดเขาได้รับมอบหมายจากเจ้านายให้ไปสัมภาษณ์ แฟรงค์ บีชั่ม (Isaiah Washington) นักโทษผิวดำที่กำลังจะถูกลงโทษประหารด้วยการฉีดยาในอีกไม่กี่ชั่วโมง
จะว่าไปแล้ว ผมชอบ Stuart Little 2 มากกว่าภาคแรกอยู่พอสมควรครับ
เป็นการจับเอา Die Hard มาเจอกับ Air Force One แล้วปรุงรสด้วย “การถล่มทำเนียบขาวเล่น” ตามสไตล์ของผู้กำกับ Roland Emmerich ที่หาพล็อตมาถล่มโลกได้บ่อยมากๆ คนหนึ่ง
เมื่ออลิซาเบธ (Leslie Stefanson) ลูกสาวของท่านนายพลโจเซฟ แคมป์เบลล์ (James Cromwell) ถูกพบเป็นศพในสภาพเปลือยกลางฐานทัพฟอร์ด แม็คคัลลัม ทำให้ พอล เบรนเนอร์ (John Travolta) เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนมือดีถูกตามตัวมาสืบหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ และใครคือฆาตกรตัวจริง
แวะเวียนมารู้จักหนังเก่ากันอีกสักเรื่องนะครับ ผมไม่ได้เขียนถึงหนังเก่าที่ผมไล่ดูสมัยที่ VDO กำลังจะสูญพันธูไปจากบ้านเรา ตอนนั้นผมกว้านซื้อหนังจากร้าน Blockbuster ในรูปแบบวีดีโอมาดูซะเพียบไปหมด เฮ่อ นึกถึงวันชื่นคืนสุขเมื่อก่อนจัง
ในช่วงต้นยุค 90 นี่เราจะได้เห็นงานสไตล์เดียวกันตามสูตรออกมาเป็นร้อยๆ เรื่องครับ อย่างพวกหนังแอ๊คชั่นสไตล์ Die Hard กับ Lethal Weapon นี่สร้างออกมาเพียบ แต่ที่ดังจริงๆ ก็มีแค่สองเรื่องนั่นแหละครับ และอีกแนวหนึ่งที่จะเจอบ่อยก็คือ แนวตำรวจคู่หู
เรื่องนี้เป็นการโคจรมาเจอกันของ Sylvester Stallone สุดบึ๊ก กับ Sharon Stone สุดเซ็กซี่นะครับ กับเรื่องราวว่าด้วยระเบิด ซึ่งปีที่ออกฉายนั้นหนังแนวระเบิดนี่ได้รับความนิยมมากครับ เพราะสร้างกันถึงสามเรื่อง ก็มี Speed, Blown Away แล้วก็เรื่องนี้นี่แหละ
พี่ Stephen King มาอีกครั้งครับ ในรูปแบบเรื่องสั้น 3 ตอน