ป้ายกำกับ: Jake Gyllenhaal

The Guilty (2021)

ตอนแรกว่าจะหาหนังต้นฉบับมาดูก่อนแล้วค่อยเขียน (เรื่องนี้รีเมคมาจากหนังเดนมาร์กครับ) แต่ก็ยังไม่มีเวลาสักทีเลยขอร่ายอันนี้ก่อนแล้วกันนะครับ เพราะคงไม่ยาวมากนัก

Road House (2024) คนเดือดบวกเมืองเถื่อน

รีเมคจากหนังเก่าปี 1989 ที่ Patrick Swayze แสดงนำ ซึ่งจำได้เลยว่าผมดูจากหนังรอบดึกของช่อง 3 ดูแบบไม่คาดหวัง กะว่าเปิดแป๊บๆ แล้วก็จะนอน ปรากฏว่านอนไม่ได้ครับ เพราะหนังมันสนุก ต้องนั่งดูจนจบ แล้วก็ยังมีการเอามาดูซ้ำอีกในเวลาต่อมา

Ambulance (2022) ปล้นระห่ำ ฉุกเฉินระทึก

สารภาพว่าความอยากดู Ambulance ของผมนั้นไม่เยอะเท่าไรครับ คือคิดไว้แล้วน่ะว่าคงเป็นหนังแอ็คชั่นเอามันส์ ครั้นพอได้ดูก็ไม่ผิดจากที่คาด คือดูได้เพลินๆ มันส์ตามอัตภาพ

Spider-Man: Far from Home (2019) สไปเดอร์-แมน ฟาร์ ฟรอม โฮม

ผมดู Spider-Man ภาคนี้ไป 2 รอบครับ รอบแรกดูในฐานะหนังปิดเฟส 3 ของจักรวาล Marvel เป็นการดูต่อจาก Avengers: Endgame ส่วนรอบ 2 เป็นการเอามาดูต่อกันตั้งแต่ฉบับ Tobey ต่อด้วย Andrew ดูเพื่อเตรียมไปสนุกกับภาค No Way Home

The Day After Tomorrow (2004) เดอะ เดย์ อ๊าฟเตอร์ ทูมอร์โรว์ วิกฤติวันสิ้นโลก

เรื่องนี้ดูไปหลายรอบแล้วเหมือนกันครับ ประมาณว่าพอมีอารมณ์อยากดูหนังแนวภัยพิบัติทำลายโลกเมื่อไร ก็ต้องหยิบเรื่องนี้มาดูด้วยทุกทีไป

Velvet Buzzsaw (2019) เวลเว็ท บัซซอว์ ศิลปะเลือด

เท่าที่รับรู้มา ดูเหมือนหนังเรื่องนี้จะโดนสับเป็นบะช่อพอสมควรเลยครับ (555) ในขณะที่ผมนั้นดูแล้วก็รู้สึกว่าดูได้เพลินๆ ไม่ได้ผิดหวังอะไรนัก ส่วนหนึ่งก็อาจเพราะไม่ค่อยหวังอยู่แล้ว บวกกับสไตล์ของหนังที่ออกมาใกล้ๆ กับที่กะไว้ตั้งแต่ตอนดูตัวอย่าง

Nocturnal Animals (2016) คืนทมิฬ

ระยะหลังมานั่งนึกๆ ว่าหนังแบบไหนที่จะโดนใจเราหลังดูจบ ก็ตระหนักได้ว่ามีอยู่ 2 จำพวกใหญ่ๆ ครับ ได้แก่ พวกแรก “ดีต่อใจ” ที่ดูแล้วอิ่มเอมเปรมปรีดิ์ ดูแล้วได้สารอาหารทางใจไปใช้ในการดำเนินชีวิตต่อ รวมถึงได้แง่คิดดีๆ ไว้ใช้เป็นทางออกยามชีวิตเกิดปัญหา

Southpaw (2015) สังเวียนเดือด

หนังหมัดมวยที่ถือว่ามาพร้อมหมัดอันหนักหน่วงเลยล่ะครับ ตัวหนังออกมาจริงจังและกดดันพอสมควร ยอมรับเลยว่าดูแล้วบางจังหวะก็แอบเครียดนะ เพราะพล็อตเรื่องมันกดดันและบีบคั้นตัวเอกเหลือเกิน