
ผมเลือกดู Jolt แบบแบลงค์ๆ ครับ คือไม่ได้คิดและไม่ได้หวังอะไรเลย ดูไปแบบแบลงค์ๆ ครั้นดูจบก็รู้สึกแบลงค์ๆ อีกเหมือนกัน
ผมเลือกดู Jolt แบบแบลงค์ๆ ครับ คือไม่ได้คิดและไม่ได้หวังอะไรเลย ดูไปแบบแบลงค์ๆ ครั้นดูจบก็รู้สึกแบลงค์ๆ อีกเหมือนกัน
Liam Neeson กับหนังแนวประจำของเขาครับ 10 กว่าปีที่ผ่านมานี้ป๋าแกตะบันบู๊โดยเฉลี่ยคือปีละเรื่องกว่าๆ จนอดคิดไม่ได้ครับว่าทำไมมีคนขยันมาหาเรื่องป๋าเขาบ่อยจัง จริงๆ โหงวเฮ้งป๋าเขาออกจะดูมีบารมีนะ ดูเป็นคนมีของ ไม่น่ามีใครมาหาเรื่องถี่แบบนี้ (555)
ผมรู้สึกเพลินกับ Terminator Genisys ในมุมความเป็นหนังไซไฟมากกว่าในแง่แอ็กชันครับ
ผมเชื่อว่าคนที่โปรดปราน Divergent ก็น่าจะโอเคกับ Insurgent ในระดับที่ใกล้เคียงกัน
Divergent เป็นหนังที่ผมดูตั้งแต่มันเข้าแรกๆ เลยครับ ซึ่งความเห็นเบื้องต้นคือ ผมก็โอเคอยู่ครับ หนังดูเพลินดีไม่น้อย
The Water Diviner คือผลงานกำกับครั้งแรกของ Russell Crowe โดยเขารับบทนำด้วยครับ เป็นคอนเนอร์ ชาวไร่ชาวออสเตรเลียที่ตัดสินใจข้ามน้ำข้ามทะเลมาตามหาลูกชายทั้ง 3 ที่ถูกส่งไปรบที่กัลลิโพลี ประเทศตุรกี แล้วก็ขาดการติดต่อไป
การดู I, Frankenstein รู้สึกเหมือนได้ดู Van Helsing, Underworld และ The League of extraordinary Gentlemen เลยครับ เพราะอะไรหลายอย่างมาทางเดียวกันเด๊ะๆ
Jack Reacher ถือเป็นหนังแนวสืบสวนที่เข้าท่ามากๆ เรื่องหนึ่งครับ
Die Hard ภาคนี้ถือว่าจัดเต็มสำหรับองค์ประกอบเรียกลูกค้าหนังแอ็กชันบู๊ล้างผลาญ ตั้งแต่ต้นตำนานจอมผิดที่ผิดเวลา จอห์น แม็คเคลน (Bruce Willis) ที่ไปไหนก็เกิดเรื่องทุกที ขนาดอยู่ดีๆ เรื่องก็ยังพุ่งมาหาเลย ตามด้วยกระสุนปลิวว่อน ระเบิดไม่ยั้ง ตึกถล่ม กระจกกระจาย ขับรถไล่ล่าจนถนนพังยับ ลูกน้องตัวร้ายที่ขนมาเป็นโหล เฮลิคอปเตอร์ลุกเป็นไฟ และตัวร้ายที่มาพร้อมแผนระดับบิ๊ก
มันน่าจะมันส์นะ… แต่ไหงไม่มันส์เลย!
บอกก่อนครับว่าบทความนี้ผสมความเห็นส่วนตัว (อีกทั้งจินตนาการสายมโน) ค่อนข้างเยอะครับ ดังนั้นมันคงไม่เป็นกลางสักเท่าไร เอาเป็นว่าถ้าถามว่าน่าดูไหม ก็ตอบได้ว่า “หนังดูได้เพลินๆ นะครับ ขอเพียงไม่คาดหวังอะไรก็พอ” (ถ้าอยากรู้แค่นี้ อ่านแค่ย่อหน้านี้ก็พอครับ)