วันก่อนพูดถึงหนังภาคต่อของวิ่งสู้ฟัดที่ไม่ได้ใช้ชื่อไทยว่าวิ่งสู้ฟัดไปแล้ว มาวันนี้ก็จะขอพูดถึงหนังที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับวิ่งสู้ฟัด แต่ได้ใช้ชื่อไทยว่าวิ่งสู้ฟัดนะครับ
วันก่อนพูดถึงหนังภาคต่อของวิ่งสู้ฟัดที่ไม่ได้ใช้ชื่อไทยว่าวิ่งสู้ฟัดไปแล้ว มาวันนี้ก็จะขอพูดถึงหนังที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับวิ่งสู้ฟัด แต่ได้ใช้ชื่อไทยว่าวิ่งสู้ฟัดนะครับ
เรื่องนี้อาจถือได้ว่าเป็นภาคต่อของ ไอ้หนุ่มซินตึ๊งล้างแค้น (Fist of Fury) ที่ Bruce Lee แสดงนำเอาไว้ครับ โดยเรื่องนี้ได้ เหมียวเข่อซิ่ว (Nora Miao) กลับมารับบทนำ เนื้อเรื่องก็เล่าถึงแผ่นดินจีนในยุคที่โดนญี่ปุ่นรุกราน นางเอกของเราต้องหนีจากแผ่นดินจีนมาเพราะโดนพวกญี่ปุ่นตามล่า
ช่วงนี้รู้สึกโปรแกรมหนังเริ่มเข้าสู่โหมดนิ่ง ไม่ได้มีอะไรฟอร์มยักษ์ๆ มาเสิร์ฟให้ได้ดูกัน พอนั่งนึกๆ ก็ถึงบางอ้อครับ เพราะตอนนี้อเมริกาถือว่าหมดช่วงซัมเมอร์แล้ว จัดเป็นช่วงพัก จะมาเริ่มจัดกันหนักๆ อีกทีก็ปลายเดือนกันยายนโน่นครับ
หนังบู๊ผจญภัยดูเอาเพลินของเฮียเฉินหลงครับ ก็ถ้าให้ว่าแบบอ้อมค้อมเลยก็คือหนังดูได้เรื่อยๆ แบบไม่ต้องคาดหวังอะไร เหมาะกับใครก็ตามที่อยากเพลินกับมุกฮาๆ กับลีลาบู๊แบบเฮียเฉินน่ะครับ
วิ่งสู้ฟัด 2013 อาจไม่ใช่หนังแอ็กชันมันส์สะใจตามสไตล์เก่าๆ ของเฮียเฉินหลง แต่ผมก็นับถือในความพยายามครับ เพราะพล็อตเรื่องและการนำเสนอนี่ถือว่ามีอะไรน่าสนใจพอสมควร
สำหรับผมแล้ว จุดเด่นของหนังชุด Kung Fu Panda คือภาพสวยๆ ของธรรมชาติแบบย้อนยุคแล้วก็เจือกลิ่นอายลายเส้นอันเปี่ยมเสน่ห์ของจีนน่ะครับ
ดูเรื่องนี้แล้วนึกถึง “ไทยถีบ” ของบ้านเราขึ้นมาเลยครับ ว่าด้วยขบวนการกองโจรที่ปล้นพวกต่างชาติที่เข้ามารุกรานแผ่นดิน แล้วสถานที่ในการก่อการก็คือรถไฟเหมือนกัน
หยิบหนังเฮียเฉินหลงเรื่อง Mr. Nice Guy มาเสพโดยหวังความบันเทิง ผลที่ได้ก็นับว่าตรงตามที่หวังครับ
จำได้ว่ารอบแรกที่ดู City Hunter ฉบับเฮียเฉินหลงเป็นซาเอบะ เรียวนั้น มันมีอารมณ์ค้านนิดๆ เพราะหน่วยก้านและจมูกบานๆ ของเฮียเขามันไม่ใช่ซาเอบะสักเท่าไร
หนังแอ็กชัน+ตลกผสมด้วยความรักกุ๊กกิ๊กของ 3 นักบู๊แห่งฮ่องกงครับ เรื่องมิตรภาพของ 3 หนุ่มที่ประกอบด้วย แจ็คกี้ (เฉินหลง) คือทนายมือดีล ลุค (หงจินเป่า) นักค้าของเถื่อนจอมกะล่อน และทิโมธี (หยวนเปียว) หัวขโมยมือเซียน