ส่วนใหญ่ปี 3 ของซีรี่ส์แนวแอ็กชันนี้มักมาทางเดียวกันครับ คือจะพยายามแหวกจาก 2 ปีแรกเท่าที่จะทำได้ ตามด้วยการสรรหาตัวร้ายที่ต้องใหญ่กว่าเดิมมาเป็นบอสใหญ่ให้เหล่าตัวเอกรับมือกัน
ส่วนใหญ่ปี 3 ของซีรี่ส์แนวแอ็กชันนี้มักมาทางเดียวกันครับ คือจะพยายามแหวกจาก 2 ปีแรกเท่าที่จะทำได้ ตามด้วยการสรรหาตัวร้ายที่ต้องใหญ่กว่าเดิมมาเป็นบอสใหญ่ให้เหล่าตัวเอกรับมือกัน
จำได้ว่าปีแรกสุดของซีรี่ส์ชุดนี้ผมไม่ถึงกับปลื้มอะไรมากครับ มาสนุกจริงๆ เอาตอนหลังๆ ในขณะที่ครึ่งปีแรกออกแนวเรื่อยๆ ไม่ได้มีอะไรชวนติดตามขนาดนั้น
ซุ่มดู Agents of S.H.I.E.L.D. Season 1 มาจนถึงตอนเกือบสุดท้ายแล้วนะครับ โดยรวมๆ ก็นับว่าโอเคครับ ช่วงต้นๆ ของปี (10 ตอนแรก) พลังอาจยังไม่มากเท่าไร แต่อะไรสนุกๆ มันเริ่มมาเต็มหลังตอนที่ 15 ครับ และตอนล่าสุดที่ดูไป (ตอนที่ 21) อะไรๆ ก็ลงตัวกลมกล่อมมากขึ้น จนคาดว่าตอนจบคงจัดเต็มกันมันหยดไปเลย (ยิ่งเห็นหน้า “ซูเปอร์ฮีโร่รับเชิญ” ที่จะมาโผล่ก็ยิ่งชวนดูไปกันใหญ่)
จำได้ว่าตอนดูตัวอย่าง Overlord นี่ผมรู้สึกอยากดูมากเลยนะครับ โดยเฉพาะตอนเห็นภาพคนโดนทดลองมันรู้สึกว่าหนังน่าจะมีอะไรสดๆ ใหม่ๆ มาเสิร์ฟ แต่พอผ่านไปสักพักก็กลายเป็นเฉยๆ ไม่ได้อยากดูอะไรมาก ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเส้นกราฟมันถึงเปลี่ยนได้ – ก็อยากบันทึกห้วงความรู้สึกนั้นไว้ครับ เผื่อสักวันจะนึกออกว่าทำไม
Lost River เป็นหนังแนวๆ ที่ผสมพล็อตดราม่าเข้ากับความหลอน ซึ่งพล็อตจริงๆ ไม่มีอะไรซับซ้อนครับ มันคือเรื่องของคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวกับลูกชาย 2 คน ที่พยายามดำรงชีวิตให้ได้ ในโลกเบี้ยวๆ ใบนี้