
ดู Fast & Furious 9 ด้วยใจไร้คาดหวังตามเคยครับ ว่าตามจริงคือผมไม่ถึงกับเป็นแฟนหนังชุดนี้ คือดูทุกภาคได้แบบเพลินๆ มาชอบมากหน่อยก็ภาค 5 และ 6 ต่อด้วย 7
ดู Fast & Furious 9 ด้วยใจไร้คาดหวังตามเคยครับ ว่าตามจริงคือผมไม่ถึงกับเป็นแฟนหนังชุดนี้ คือดูทุกภาคได้แบบเพลินๆ มาชอบมากหน่อยก็ภาค 5 และ 6 ต่อด้วย 7
ดูหนังเรื่องนี้แล้วพูดไม่ออกบอกไม่ถูกเลยครับ
จริงๆ หนังเรื่องนี้ควรจะเข้าทางผมอย่างแรงเลยล่ะครับ เหตุผลก็เพราะ ข้อ 1) เป็นหนังว่าด้วยการค้นหาความหมายชีวิต ข้อ 2) หนังมีฉากหลังเป็นช่วงคริสต์มาส หนึ่งในช่วงที่บรรยากาศอบอุ่นกรุ่นหอมที่สุดแห่งปี และ 3) หนังรวมดารายอดฝีมือระดับตัวพ่อตัวแม่เต็มจอไปหมด
ช่วงนี้มีหนังว่าด้วยเรื่องของโดรนออกแผ่นไล่ๆ กัน และแต่ละเรื่องยังชื่อไทยแบบใกล้กันโคตรๆ ด้วยครับ อย่างเรื่องนี้ชื่อไทยว่า “แผนพิฆาต ล่าข้ามโลก” ส่วนอีกเรื่อง Good Kill มีชื่อไทยว่า “โดรนพิฆาต ล่าพลิกโลก” (อะไรจะคิดได้ใกล้กันปานนั้น)
ถ้าใครหมายมั่นว่าหนังเรื่องนี้จะออกแนวชีวิตว่าด้วยประวัติของผู้กำกับระดับตำนานอย่าง Alfred Hitchcock แล้วก็ดูด้วยความต้องการอยากรู้จัก Hitchcock อย่างลึกซึ้งมากขึ้น ก็อาจไม่รู้สึกสมหวังนักครับ หลังจากหนังเรื่องนี้จบ
การรีวิวหนังเรื่องนี้จริงๆ ทำได้ง่ายมากครับ แค่ผมไป Copy รีวิวภาคแรกมา Paste ลง แล้วลบชื่อ Morgan Freeman กับ Karl Urban ออก ก็จะได้แล้วครับ รีวิว Red ภาค 2
ชื่อไทยตั้งได้ “ใช่” มากๆ ครับ คนอึดต้องกลับมาอึดจริงๆ
คิดแล้วเชียวว่าผมต้องชอบ The Hundred-Foot Journey แหงมๆ
ช่วงนี้ลองหยิบซีรี่ส์ Downton Abbey มาดู พอดูๆ ไปก็นึกถึงหนังเรื่องนี้ขึ้นมาครับ เพราะแรกเริ่มเดิมที Downton Abbey จะเป็นภาคแยกของ Gosford Park แต่สุดท้ายทีมงานตัดสินใจเอาเฉพาะสไตล์ของเรื่อง (ที่ว่าด้วยเรื่องของชนชั้นสูงและคนรับใช้ ในคฤหาสน์หลังใหญ่) มาสานต่อ ส่วนด้านเนื้อหาจะเป็นเอกเทศไม่เกี่ยวกัน
ช่วงหลายปีที่ผ่านมา Russell Crowe แกเล่นหนังดีๆ เอาไว้เยอะครับ เสียดายแต่ว่าหนังเหล่านั้นไม่ค่อยดังและไม่ทำเงินสักเท่าไร อย่างเรื่องนี้ก็เข้าอีหรอบนั้นเหมือนกัน