
Death Race: Inferno ภาคนี้ต่อจากภาค 2 ครับ (แต่ก็ยังเป็นเหตุการณ์ก่อนหน้าของภาคแรก) หลังจากคาร์ล ลูคัส (Luke Goss) แจ้งเกิดในฐานะ “แฟรงเกนสไตน์” นักซิ่งท้าตายแห่งเรือนจำที่ผู้ชมทั่วโลกต่างชื่นชอบ
Death Race: Inferno ภาคนี้ต่อจากภาค 2 ครับ (แต่ก็ยังเป็นเหตุการณ์ก่อนหน้าของภาคแรก) หลังจากคาร์ล ลูคัส (Luke Goss) แจ้งเกิดในฐานะ “แฟรงเกนสไตน์” นักซิ่งท้าตายแห่งเรือนจำที่ผู้ชมทั่วโลกต่างชื่นชอบ
The Vatican Tapes เป็นอีกเรื่องที่คาดไม่ถึงเหมือนกันครับว่ามันจะออกมาธรรมดาได้ขนาดนี้
ผมเคยดูหนังเรื่องนี้มาแล้วหนึ่งรอบตอนมันเข้าฉาย ก็ไม่ได้ถึงกับติดใจอะไรมากครับ จนกระทั่งเมื่อปีกลายได้ไปนั่งดูหนังเรื่องนี้อีกรอบตอนไปเฝ้าญาติที่โรงพยาบาล ก็ชอบมาขึ้น สำหรับ ซินเดอเรลลาเวอร์ชั่นสู้ฟัด เรื่องนี้ครับ
ขอแบ่งการพูดถึง Taken 3 ออกเป็น 2 ช่วงนะครับ ช่วงแรกเป็น Softcore อ่านเบาๆ และช่วงหลังเป็น Hardcore ขอจัดเต็ม 555
บอกตามตรงว่าดูหนังเรื่องนี้เพราะนำแสดงโดย Kaya Scodelario น้องนางเอกจาก The Maze Runner ที่ดูจะไม่ค่อยมีผลงานอะไรออกมาเท่าไร
ในปี 1998 มีหนังว่าด้วยดาวหางพุ่งมาชนโลกถึง 2 เรื่อง เรื่องแรกคือ Deep Impact ที่ชูประเด็นดราม่าและเดินเรื่องอิงความสมจริง ส่วนเรื่องที่ 2 คือ Armageddon ที่แอ็กชันมันส์สะใจโม้สะบัดกันไป
มาพิจารณาตัวเองระยะนี้ (ดูจากรีวิวสามเรื่องล่าสุดของผมก็ได้ครับ) รู้สึกได้เลยว่าตัวเองต้องการการพักผ่อนสมองอย่างหนัก ดูหนังอะไรก็ได้ที่สบายๆ ไม่ต้องคิดอะไรให้ซับซ้อน เน้นความสะใจเป็นหลัก
คราวก่อนหนังเปลี่ยนจากเดิมที่เป็นแนวสายลับมาสู่แนวสืบสวน มาภาคนี้ก็เปลี่ยนไปอีกแล้วครับ กลายเป็นบู๊เต็มตัว กำกับ โดย John Woo กับภารกิจของ อีธาน ฮันต์ (Tom Cruise) ที่ต้องไปหยุดยั้งแผนการแพร่เชื้อโรคร้ายของ ฌอน แอมโบรส (Dougray Scott) อดีตเจ้าหน้าที่ IMF ที่ผันตัวเองไปเป็นผู้ร้าย ซึ่งในครั้งนี้อีธานยังได้พบกับ เอ็นย่าห์ ฮอลล์ (Thandie Newton) อดีตแฟนสาวของฌอนผู้ซึ่งจะมารับหน้าที่เป็นนกต่อให้อีธานสามารถเข้าถึงตัวฌอน