ผมทำใจไว้ล่วงหน้าครับว่าตามสไตล์หนังภาคต่อแล้ว เป็นเรื่องธรรมดาหากมันจะดร็อปลง ไม่โอเคเท่าภาคแรก ซึ่งสำหรับเรื่องนี้ตอนต้นและตอนกลางก็เหมือนจะดร็อปลงไปบ้างจริงๆ ครับ แต่หนังมาโกยคะแนนได้เยอะในฉากไคลแม็กซ์ตอนท้าย
ผมทำใจไว้ล่วงหน้าครับว่าตามสไตล์หนังภาคต่อแล้ว เป็นเรื่องธรรมดาหากมันจะดร็อปลง ไม่โอเคเท่าภาคแรก ซึ่งสำหรับเรื่องนี้ตอนต้นและตอนกลางก็เหมือนจะดร็อปลงไปบ้างจริงๆ ครับ แต่หนังมาโกยคะแนนได้เยอะในฉากไคลแม็กซ์ตอนท้าย
ผมเคยดู Book Club แล้วรอบนึงครับ ซึ่งผมชอบนะ คืออาจจะไม่ได้ถึงกับชอบมากๆ แต่หนังมันกำลังดีน่ะครับ เนื้อเรื่องอาจจะดูเบาๆ ไม่หนักมาก แต่ในแง่การแสดงแล้วถือว่ายอดเยี่ยมเพราะ 4 ดารานำนี่ล้วนเป็นระดับลายคราม แต่ละคนนี่ถ้าไม่ได้ออสการ์อย่างน้อยก็ต้องได้เข้าชิง เล่นเรื่องไหนลื่นไหลเรื่องนั้นอยู่แล้ว ไว้ใจได้เสมอ
สำหรับผมแล้ว ความสนุกของ Knives Out ไม่ได้อยู่ตรงการเดาตัวฆาตกร (เพราะสารภาพตามตรงว่าพอจะเดาได้ตั้งแต่แรกๆ แล้ว) แต่มันสนุกเพราะหนังมีองค์ประกอบดีๆ มาผสมกันอย่างพอเหมาะ ไม่ว่าจะทีมดารามือดี การเล่าเรื่องที่มีชั้นเชิง มีรายละเอียดและมีอะไรให้ตามอยู่เรื่อยๆ และโทนของเรื่องที่ไม่หนักไม่เบาจนเกินไป ดูแล้วได้อารมณ์หนังสืบสวน แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้เรายิ้มได้เป็นระยะๆ
The Other Woman ดูแล้วได้อารมณ์เหมือน The First Wives Club เลยครับ พล็อตก็ใกล้ๆ กัน ว่าด้วย 3 สาวที่หาทางแก้เผ็ดผู้ชายมักมาก แต่ที่ต่างก็คือเรื่องนี้ 3 สาวจะอายุน้อยกว่า และประกอบด้วย 1 เมียหลวงกับ 2 กิ๊ก (ที่ไม่รู้ตัวเลยว่าเป็นกิ๊ก)
แว่บมาพร้อมหนังแอ็กชันสไตล์สิงห์มอเตอร์ไซค์ครับ
เป็นหนังในความทรงจำอีกเรื่องครับ จำได้ตอนนั้นผมกำลังจะไปเรียน ร.ด. กับเพื่อนๆ เราเรียนกันช่วงบ่าย ตอนเช้าก็นัดเจอกันที่บ้านเพื่อนคนหนึ่ง ระหว่างรอให้คนมากันครบเราก็นั่งดูหนังทาง HBO ฆ่าเวลาไปพลาง พอดีเรื่องนี้ฉายครับ แล้วเพื่อนคนหนึ่งก็บอกว่า “เฮ้ย เรื่องนี้สนุก” พวกเราก็เลยดูกันเล่นๆ ครับ แต่ไปๆ มาๆ นั่งดูจนหนังจบ พร้อมสรุปความเห็นตรงกันว่า “เออ มันสนุกจริงๆ”