ตอนดูหนังเรื่องนี้จบอารมณ์มันเหมือนเดจาวูครับ มันเหมือนผมเคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนแฮะ…
ตอนดูหนังเรื่องนี้จบอารมณ์มันเหมือนเดจาวูครับ มันเหมือนผมเคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนแฮะ…
ผมดูหนังเรื่องนี้ตอนบ่ายวันอาทิตย์ครับ ประมาณว่าหลังกินข้าวกลางวันเสร็จแล้วมันอยากดูหนังที่เบาๆ เรื่อยๆ ไม่ต้องเร่งเร้าหรือตื่นเต้นอะไร ก็เลยเลือกเรื่องนี้มาดู แล้วก็สมประสงค์กันไปครับ
เรื่องนี้กะดูเอามันส์ แล้วก็ตามนั้นครับ ถือว่าพอได้อยู่
Night at the Museum: Secret of the Tomb ทำให้นึกถึงเกมลุยด่านของเครื่อง Famicom สมัยก่อนน่ะครับ
ดูรอบแรกชอบยังไง ดูรอบใหม่ก็ยังคงชอบยังงั้น กับหนังเรื่องนี้ครับ Lucky Number Slevin
Dragonheart 3: The Sorcerer’s Curse ภาคต่อแบบส่งตรงลงแผ่นของหนังในความทรงจำอีกเรื่องของผม
Exodus: Gods and Kings มาพร้อมงานฉากที่อลังการ แม้หลายส่วนจะดูออกว่าเป็น CG แต่ก็ยังดูยิ่งใหญ่ครับ พวกฉากภูเขาหรือทุ่งโล่งก็ถ่ายออกมาคมชัดจับตายิ่ง
กะอยู่แล้วครับว่า Robot Overlords จะมีผลออกมาประมาณนี้ ^_^
หน้าหนังของ Stonehearst Asylum มันชวนให้รู้สึกว่าหนังต้องออกมาลึกลับ ระทึก อารมณ์ประมาณ Shutter Island (ยิ่งลุง Ben Kingsley ตามเล่นก็ยิ่งใช่เลย)
จริงๆ ผมชอบหนังเรื่องนี้นะ คือมันอาจจะไม่ได้สุดยอดหรือลงตัวอะไรมากมาย แต่มันดูเพลิน มี Effect ที่ค่อนข้างตื่นตา ด้านดาราก็ถือว่าคัดของดีมาลงจอ ส่วนเนื้อหาแม้จะลงสูตรสำเร็จ แต่ก็ถือว่าเป็นการเอาสูตรเก่ามาใช้ใหม่ได้ออกรสดีอยู่เหมือนกัน