9 ข้อขอเล่า หลังดู Cinderella เวอร์ชั่น Kenneth Branagh กำกับ (เปิดเผยเนื้อเรื่องตั้งแต่ข้อ 3 ขึ้นไป) และมันยาวอีกแล้วครับ ไม่ชอบของ “ยาว” กรุณาหลีกเลี่ยงนะครับ ^_^
9 ข้อขอเล่า หลังดู Cinderella เวอร์ชั่น Kenneth Branagh กำกับ (เปิดเผยเนื้อเรื่องตั้งแต่ข้อ 3 ขึ้นไป) และมันยาวอีกแล้วครับ ไม่ชอบของ “ยาว” กรุณาหลีกเลี่ยงนะครับ ^_^
นอกจากหนัง Harry Potter ภาค 5 – 7.2 แล้วผมก็ยังไม่เคยได้สัมผัสฝีมือของผู้กำกับ David Yates อีกเลยครับ (รู้ว่าพี่แกเคยกำกับหนังทีวีอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ชม)
ตอนแรกเฉยๆ กับเรื่องนี้ครับ แต่พอดูแล้วรู้สึก “สุข” ยังไงก็ไม่รู้
ในช่วงเวลาที่โลกกำลังเปลี่ยนสหัสวรรษนะครับ หนังว่าด้วยการสิ้นโลกก็ผุดพรึ่บพรั่บเต็มไปหมด และแนวที่ฮิตมากๆ ก็คืออะไรก็ตามที่ว่าด้วยซาตานกลับมาครองโลก
ดูจากเนื้อหาก็ทำท่าว่าจะเป็นหนังผจญภัยเหินฟ้ามุดดินสไตล์ อินเดียน่า โจนส์ มาบวกกับลีลาฟัดของเจ๊ MICHELLE YEOH ซึ่งมันคงจะสนุกเร้าใจประมาณหนึ่งเลยล่ะครับ ถ้าหากหนังสามารถนำทั้งสองส่วนมาผสมกันได้อย่างลงตัวน่ะนะ…แต่มันไม่ใช่ยังงั้นน่ะสิ
สมัยก่อนเวลาดูหนังประเภทเปิดโปงอะไรสักอย่าง ใจเราก็มักจะเชื่อหรือคิดไปในทิศทางที่ผู้สร้างหนังต้องการนำเสนอยู่เสมอ ซึ่งจริงๆ ก็ไม่แปลกครับ เพราะผู้สร้างหลายท่านก็อยากให้เราเชื่อ ในขณะที่อีกหลายท่านก็พยายามสื่อสารอธิบายกับเรา จากมุมที่เขามอง
หนังสงครามร่วมรุ่นกับ Saving Private Ryan ที่ฉายปีเดียวกัน เข้าชิงออสการ์เคียงกันในหลายรายการ ซึ่งก็่ถือว่าหนังทั้งสองเรื่องล้วนมีดีกันคนละแบบครับ