ก่อนดูนี่ก็แอบคิดลบกับหนังเหมือนกันครับ ประมาณว่ามาแล้วอีกแล้ว หนังเกรดรองพะยี่ห้อแอ็คชั่น ก็คิดเหมือนกันว่าคงจะอีหรอบเดียวกับอีกหลายๆ เรื่อง แต่พอดูไปดูมา อ้าวเฮ้ย ใช้ได้อยู่นั่น
ก่อนดูนี่ก็แอบคิดลบกับหนังเหมือนกันครับ ประมาณว่ามาแล้วอีกแล้ว หนังเกรดรองพะยี่ห้อแอ็คชั่น ก็คิดเหมือนกันว่าคงจะอีหรอบเดียวกับอีกหลายๆ เรื่อง แต่พอดูไปดูมา อ้าวเฮ้ย ใช้ได้อยู่นั่น
ถือเป็นหนังแอ็คชั่นผจญภัยผสมดราม่าที่มีความเอพิคยิ่งใหญ่ไม่ใช่น้อยครับ ทั้งในแง่เนื้อเรื่องและฉากงานสร้างต่างๆ ด้วย และที่สำคัญคือหนังทำได้ถึงเครื่องมากทีเดียว
ภาคแรกน่าจะดังไปไม่น้อยครับ เลยมีภาค 2 ตามออกมาให้ดูกัน กับหนังแนวแกล้งชาวบ้าน แนว Candid Camera หรือถ้าเรียกแบบเข้าสมัยหน่อยก็คือ Pranks ครับ
ฉลามครีบดำตัวหนึ่งงาบเพชรล้ำค่าเข้าไปครับ นักฆ่าฉลามนามว่า เชส วอล์คเกอร์ (Derek Theler) เลยถูกเจค (Paul du Toit) พี่ชายของเขาตามตัวมาเพื่อล่าฉลามตัวนั้นและเอาเพชรกลับคืนมา แต่งานนี้ก็ไม่ง่ายครับเพราะยังมีวายร้ายที่ชื่อนิกซ์ (Arnold Vosloo) อยากได้เพชรเหมือนกัน เชสเลยต้องรับศึกหนักหน่อยครับคราวนี้
ปีนี้แจ๊ค บาวเออร์ (Kiefer Sutherland) พระเอกของเรา กำลังมีชีวิตที่ทำท่าว่าจะไปได้สวยครับ เขาได้พบรักกับออเดรย์ (Kim Raver) ลูกสาวคนสวยของท่านรัฐมนตรี เจมส์ เฮลเลอร์ (William Devane) แต่แล้วเรื่องก็เกิดวุ่นวายอีกจนได้ เมื่อมีคนวางแผนจับตัวทั้งออเดรย์และพ่อของเธอไป แจ๊คก็เลยต้องโดดเข้ามาปฏิบัติการแข่งกับเวลาอีกครั้ง ซึ่งก็ตามสูตรของซีรี่ส์ชุดนี้ล่ะครับ ว่าเรื่องราวมันต้องซับซ้อนมากกว่าที่ตาเห็นแน่นอน
ปกติถ้าเป็นหนังฟอร์มยักษ์ฟอร์มบิ๊กผมมักจะพยายามร่ายยาวกว่าหนังทั่วไป แต่กับเรื่องนี้สารภาพว่าไม่มีอะไรจะร่ายจริงๆ ครับ
ต้องยกให้เรื่องนี้เป็นหนังสมหวังแห่งปีครับ… สมหวังนี่ไม่ได้แปลว่าชื่นชอบถูกใจอะไรหรอกนะครับ แต่หมายความว่า กะคร่าวๆ ว่าหนังจะออกมาอย่างไร มันก็ออกมาระดับนั้นเป๊ะ ไม่มีผิดคาด
จากนิยายของ Dean R. Koontz นักเขียนแนวเขย่าขวัญที่ผมโปรดอีกคนมาสู่จอภาพยนตร์ ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็ทำให้ผมกังขาพอสมควร เพราะกำกับโดย Stephen Sommers แห่ง The Mummy ทั้ง 2 ภาค และ Van Helsing แต่กลับไม่มีบริษัทจัดจำหน่ายไหนซื้อเอาเข้าโรง ทั้งที่ตัวหนังเสร็จมาเป็นปีแล้ว (ล่าสุดเพิ่งมีคนซื้อไปและเตรียมคิวฉายไว้ปี 2014) แอบสงสัยเหมือนกันว่าหนังมันจะเลวร้ายขนาดนั้นเลยหรือ
นี่คืองานกำกับชิ้นแรกของ John Woo หลังได้รับเทียบเชิญให้ไปทำหนังฮอลลีวู้ด
แล้วเรื่องราวของดาร์คแมนก็ดำเนินมาถึงภาค 3 นะครับ (ในรูปแบบ VDO จ้า ไม่ได้เข้าโรงอะไรกับเขาหรอก)