หนังสร้างจากเรื่องจริงของ นิโคลัส วินตัน นายหน้าค้าหุ้นจากลอนดอน ผู้เป็นกำลังสำคัญในการช่วยพาเด็กๆ ออกจากกรุงปรากมาสู่อังกฤษ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กำลังปะทุ โดยเขาสามารถช่วยเด็กๆ ออกมาได้ถึง 669 คน
หนังสร้างจากเรื่องจริงของ นิโคลัส วินตัน นายหน้าค้าหุ้นจากลอนดอน ผู้เป็นกำลังสำคัญในการช่วยพาเด็กๆ ออกจากกรุงปรากมาสู่อังกฤษ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กำลังปะทุ โดยเขาสามารถช่วยเด็กๆ ออกมาได้ถึง 669 คน
เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ดำเนินมาถึงปีที่ 5 ฝ่ายเยอรมันนาซีของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ก็กำลังได้เปรียบ แต่ทุกอย่างมีอันต้องพลิกผันเมื่อทหารฝ่ายสัมพันธมิตรยกพลขึ้นบกที่ชายหาดนอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส และพอถึงเดือนสิงหาคมปี 1944 ปารีสก็รอดพ้นจากการยึดครองของฝ่ายเยอรมัน ต่อมาฝ่ายเยอรมันก็ต้องถอยร่น ในตอนนั้นดูเหมือนฝ่ายสัมพันธมิตรจะเริ่มได้เปรียบ
เรื่องนี้ถือเป็นการรีเมคของรีเมคอีกทีครับ ต้นฉบับดั้งเดิมเลยคือ The Mutiny of the Bounty ที่สร้างในปี 1916 จากนั้นก็มีการสร้างใหม่ในปี 1933, 1935 และ 1962 ซึ่งฉบับที่คนรู้จักมากที่สุดก็คือของปี 1935 ครับ ฉบับนั้นนำแสดงโดย Charles Laughton และ Clark Gable และได้รางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปครอง
หน้าหนังของ The Dresser อาจทำให้บางท่านเข้าใจไปว่ากำลังจะได้ดูหนังว่าด้วยมิตรไมตรีที่คน 2 คนมีให้กันมานาน ซึ่งก็ต้องบอกไว้ก่อนครับว่ามันไม่เชิงเป็นอะไรแบบนั้นหรอก
พี่น้อง Nolan นี่ดูจะขยันทำหนังและซีรี่ส์แนวสำรวจจิตใจคนจริงๆ ครับ ไม่ว่าพล็อตมันจะเกี่ยวกับเรื่องอะไรก็เถอะ แต่จนแล้วจนรอดพวกพี่เขาก็จะสามารถหาเรื่อง หาแง่ หามุมมาสำรวจจิตใจคนจนได้
สารภาพตามตรงว่าไม่ได้เป็นแฟนพันธุ์แท้หนังชุดนี้ครับ คือก็ตามดูทุกภาคนั่นแหละ แต่อาจไม่ได้ถูกจริตโดนใจอะไรขนาดนั้น ชื่อหุ่นในเรื่องก็จำได้แค่ อ็อปติมัส, บัมเบิลบี แล้วก็เมกาตรอนเท่านั้น (ยอมรับว่างงทุกทีเวลาหุ่นหลายๆ ตัวมาตีกัน ไม่รู้ใครเป็นใคร)
ช่วงต้นๆ ของ Kidnapping Mr. Heineken ถือว่าเวิร์กเลยนะครับ เปิดเรื่องมาก็แนะนำให้เรารู้จักกับเหล่าผู้ที่กำลังจะก่อการลักพาตัว นำโดย คอร์ (Jim Sturgess) และ วิลเลม (Sam Worthington) อันเนื่องมาจากพวกเขาประสบปัญหาทางการเงิน ไปกู้ธนาคารก็ไม่ผ่าน พอถึงทางตันก็เลยวางแผนลักพา เฟรดดี้ ไฮเนเก้น (Anthony Hopkins) เจ้าของธุรกิจเบียร์ผู้โด่งดัง
ถ้าใครหมายมั่นว่าหนังเรื่องนี้จะออกแนวชีวิตว่าด้วยประวัติของผู้กำกับระดับตำนานอย่าง Alfred Hitchcock แล้วก็ดูด้วยความต้องการอยากรู้จัก Hitchcock อย่างลึกซึ้งมากขึ้น ก็อาจไม่รู้สึกสมหวังนักครับ หลังจากหนังเรื่องนี้จบ
การรีวิวหนังเรื่องนี้จริงๆ ทำได้ง่ายมากครับ แค่ผมไป Copy รีวิวภาคแรกมา Paste ลง แล้วลบชื่อ Morgan Freeman กับ Karl Urban ออก ก็จะได้แล้วครับ รีวิว Red ภาค 2
“ถ้าเปรียบคนเป็นเรือ ความเชื่อก็คงเป็นน้ำ
อันว่าน้ำนั้น ลอยเรือได้ ก็จมเรือได้เช่นกัน”
นั่นคือสิ่งที่ผมคิด หลังดู Noah ครับ