ป้ายกำกับ: Andy Serkis

Venom: Let There Be Carnage (2021) เวน่อม ศึกอสูรแดงเดือด

หลังดู Venom: Let There Be Carnage จบ ก็นิยามหนังได้แบบสั้น ง่ายและได้ใจความว่า “ดูเอามันส์ล้วนๆ” ครับ (เนื้อหาในรีวิวชิ้นนี้อาจมีสิ่งที่เรียกว่า “สปอยล์” สำหรับบางคนนะครับ หากไม่อยากทราบก็ไม่ควรอ่านต่อครับ รู้แค่นี้พอว่า “หนังดูเอามันส์ล้วนๆ”)

War for the Planet of the Apes (2017) มหาสงครามพิภพวานร

สำหรับผมแล้ว หนังรีเมคหรือรีบูทนั้น ที่จัดว่ามีดีเข้าเป้าจริงๆ ถือว่ามีไม่มากครับ และแทบจะไม่ต้องพูดถึงภาคต่อเลย เพราะไม่รู้กี่เรื่องต่อกี่เรื่องที่แค่ทำภาคแรกก็จอดแบบไม่ต้องแจวแล้ว หรือต่อให้ได้ไปต่อก็ตาม ก็ไม่แน่ว่าจะยืนยาวได้ถึง 3 ภาค

Dawn of the Planet of the Apes (2014) รุ่งอรุณแห่งอาณาจักรพิภพวานร

Dawn of the Planet of the Apes เป็นภาคต่อที่ไม่ผิดหวังเลยครับ เรื่องราวอาจไม่มีอะไรเกินคาดเดา ประมาณว่าเรารู้ตั้งแต่ดูตัวอย่างแล้วล่ะว่าเหล่าวานรและมนุษย์ต้องมีการปะทะกันแน่นอน และบทลงเอยคงหนีไม่พ้นหายนะอีกเช่นเคย

The Adventures of Tintin (2011) การผจญภัยของตินติน

ผมเป็นคนแปลกอยู่อย่างครับ นั่นคือ เวลาดูหนังการ์ตูนแนวผจญภัยทีไร อดไม่ได้ที่จะเกิดคำถามว่า “ทำไมไม่ทำเป็นเวอร์ชั่นคนแสดงจริงล่ะ?” เพราะยังไงความรู้สึกและการรับรู้ของคนดูย่อมต่างกัน ไม่ว่าวิทยาการด้านภาพกราฟฟิคจะไปไกลแค่ไหน ทำตัวละคร ภาพเคลื่อนไหวต่างๆ ได้เหมือนจริงเพียงไร แต่ยังไงภาพคนมีเลือดเนื้อแท้ๆ (แม้จะมีสลิงกับเอฟเฟคท์ช่วย) กับภาพคนคอมฯ เนรมิตก็ยังมีช่องว่างห่างกันอยู่พอสมควร

Black Panther (2018) แบล็ค แพนเธอร์

ว่าตามจริงผมดู Black Panther ตั้งแต่ตอนมันเข้าโรง แต่ยอมรับว่าในช่วงนั้นมันไม่ได้มีความอยากจะเขียนรีวิวอะไรสักเท่าไร หรือกระทั่งตอนนี้ผมก็คิดว่าตัวเองคงไม่มีอะไรจะเขียนเกี่ยวกับมันมากนัก

Star Wars: Episode VIII – The Last Jedi (2017) สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 8 ปัจฉิมบทแห่งเจได

หาก Star Wars ภาค The Force Awakens คืองานบูชาครูที่ทำให้คนดูรู้สึกถึงบรรยากาศเก่าๆ พร้อมด้วยกลิ่นอายเดิมๆ แล้วล่ะก็ The Last Jedi นี่ก็คงถือเป็นการเดินไปบนเส้นทางสายใหม่ ตรงกับที่ลุคบอกไว้ในตัวอย่างว่า “มันจะไม่ได้จบลง เช่่นที่เจ้าคาดคิด”