หนังที่มีดีในตัว มีความสนุกผสมกันอย่างลงตัว มักจะไม่เก่าไปตามกาลเวลา… ผมว่าเรื่องนี้ก็เข้าข่ายหนังดีที่ว่านะครับ
หนังที่มีดีในตัว มีความสนุกผสมกันอย่างลงตัว มักจะไม่เก่าไปตามกาลเวลา… ผมว่าเรื่องนี้ก็เข้าข่ายหนังดีที่ว่านะครับ
หนังเรื่องนี้ มีไว้บอกกับเราตรงๆ ว่า “โลกธุรกิจมันโหดนะท่าน” เพราะต่อให้สนามธุรกิจที่คุณทำอยู่มีคนดี มีจอมยุทธ์คุณธรรมมากแค่ไหนก็ตาม แต่หากมีคนเพียง 1 คนที่โหดดั่งฉลาม พร้อมหักหลังคนอื่นหรือฉวยโอกาสแบบไม่สนใคร
จัดเป็นหนังซอมบี้เน้นบันเทิงที่ทำได้สนุกน่าพอใจอีกเรื่องครับผม แต่ก็ยอมรับครับว่าตอนแรกผมไม่ได้ตั้งหน้าตาตั้งรอดูสักเท่าไร เหมือนช่วงนั้นผมกำลังอิ่มซอมบี้เพราะ The Walking Dead อยู่
หนังแนวลอบสังหารที่อายุเยอะแล้ว คนแสดงคนกำกับก็อายุเยอะเช่นกัน แต่ก็สนุกสนาน มันส์ และตื่นเต้นแรงสูงแบบห้ามพลาดเป็นอันขาด!
ไม่ได้ดูหนังแนวจิตวิทยาผสมระทึกขวัญที่เข้าท่าแบบนี้มานานพอสมควรครับ จริงๆ หนังแนวนี้มีออกมาเยอะ (โดยเฉพาะหนังทีวีหรือหนังแผ่น) เพียงแต่ความสนุกหรือความน่าสนใจอาจจะไม่มากเท่าไรน่ะครับ จนมาเจอเรื่องนี้ที่ถือว่าน่าพอใจเลยล่ะ
ในโลกนี้มีหนังอยู่หลายเรื่องที่ผมดูแล้วอ้าปากค้างตอนจบครับ และ Primal Fear ก็คือหนึ่งในนั้น
รับรองได้ครับ ประโยคที่ท่านจะนึกได้ทันทีที่ดูหนังเรื่องนี้จบคือ “ท่านเพิ่งได้ชม Suspiria! จบ”
นี่ก็เป็นหนังอีกเรื่องที่กำกับโดย Jay Roach ผู้ที่กำกับ หนัง Austin Powers ทั้ง 3 ภาคน่ะครับ
เฮ่อ ไม่ได้พูดถึงการ์ตูนเลย เรามาร่ายกันดีกว่านะครับ ก่อนจะเข้าเรื่องเอาโดราเอมอน 25 ตอนมาพล่ามกันเป็นเรื่องเป็นราวอีกที
ต้นตำรับแห่งตำนานการฝันร้ายที่สร้างสรรค์โดย Wes Craven กับเรื่องราวของวัยรุ่น 4 คนอันประกอบไปด้วย แนนซี ทอมพ์สัน (Heather Langenkamp), ทีน่า เกรย์ (Amanda Wyss), เกลน แลนท์ซ (Johnny Depp) และ ร๊อด เลน (Jsu Garcia) ที่เริ่มฝันร้ายถึงชายแปลกหน้า ผู้มีกรงเล็บเหล็ก ใส่เสื้อลายทางสีแดง-เขียว นามว่าเฟรดดี้ ครูเกอร์ (Robert Englund ผู้ผูกขาดบทนี้ทุกตอน)