ชื่อมันชวนดูนะ แต่ก็ทำใจไว้หลายๆ ก่อนดูเพราะหนังทุนต่ำจนรู้สึกได้เลยว่ามันจะต้องไม่มีอะไรแหงๆ… แล้วมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ 😊
ชื่อมันชวนดูนะ แต่ก็ทำใจไว้หลายๆ ก่อนดูเพราะหนังทุนต่ำจนรู้สึกได้เลยว่ามันจะต้องไม่มีอะไรแหงๆ… แล้วมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ 😊
ตอนแรกนึกว่า Larceny เรื่องนี้จะเป็นหนังแอ็คชั่นครับ เพราะพี่ Dolph Lundgren อยู่บนหน้าปก แต่ที่ไหนได้กลายเป็นว่าหนังหวานเย็นกว่าที่คิด
ดิ๊ค (Joe Balogh) ไปเที่ยวบราซิลในช่วงวันหยุดพร้อมกับน้องสาวที่ชื่อเจสสิก้า (Sonia Curtis) และเควิน (Keith Van Hoven) แฟนหนุ่มของเธอ แต่ทีนี้ดิ๊คเกิดสนใจในเรื่องวูดูมนต์ดำครับ แล้วเขาก็ได้ลงมือปลุกผีทาสขึ้นมาอาละวาด งานนี้ความสยองเลยบังเกิด
ถ้าจะให้นิยาม Deadlock ก็คงต้องบอกว่ามันคือ Die Hard นั่นแหละครับ เพียงแต่หนนี้ป๋า Bruce Willis พลิกขั้วมาเล่นเป็นผู้ร้ายแทน
พี่ Steven Seagal กับบท ไมเคิล เดคเกอร์ อดีตเจ้าหน้าที่ยอดฝีมือที่ยื่นมือเข้าช่วยหญิงสาวคนหนึ่ง (Jade Ewen) จากการถูกทำร้าย บทลงเอยของเหตุการณ์นั้นคือเขาสามารถช่วยเธอได้ แต่ก็ต้องเล่นงานอีกฝ่ายถึงตาย และนั่นล่ะครับคือจุดเริ่มที่ทำให้ชีวิตของเขาต้องพัวพันกับโลกของอาชญากรที่สุดแสนอันตราย
Gutshot Straight เล่าถึงเรื่องราวในช่วงวิกฤตของนักพนันนามว่า แจ็ค (George Eads) ที่ชีวิตนี้เต็มไปด้วยหนี้ โชคเขาดูเหมือนจะดีขึ้นมาหน่อยเมื่อได้เจอกับเศรษฐีคนหนึ่ง แต่กลับกลายเป็นว่าชีวิตเขากำลังจะเจอกับเรื่องวุ่นวายมากกว่าเก่า แจ็คเลยต้องพยายามผ่าทางตันก่อนที่ชีวิตเขาและครอบครัวจะต้องลำบากไปมากกว่านี้
แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่ายังไง Fortress ของป๋า Bruce Willis คงไม่ได้สนุกอะไรมากมาย แต่ที่ตามมาดูก็เพื่อให้กำลังใจดาราแอคชั่นที่คุ้นเคยกันมาครับ สมัยหนุ่มๆ พี่เขาทำหนังสนุกๆ ให้เราดูไว้พอสมควร ตอนนี้ก็ตามให้กำลังใจอุดหนุนผลงานป๋าเขาสักหน่อย
ก่อนดู The Grudge ฉบับ 2020 ผมก็ถามตัวเองครับว่า “ทำไมถึงรอนานจังกว่าจะเอามาดู?” แล้วใจก็ตอบสวนขึ้นมาครับว่า “คงเพราะรู้สึกเฉยๆ กับหนังชุดนี้ไปแล้วน่ะ” แล้วที่เอามาดูนี่ก็เพราะมันมีให้ดูใน HBO Go ครับ แล้วมันก็ขึ้นว่ากำลังจะเลิกฉาย พอเห็นดังนั้นสบกับเวลาที่เหมาะพอดี เลยจัดซะ จะได้ดูให้จบๆ กันไป
แอนดรูว์ (Lorenzo Lamas) นายตำรวจผู้ได้รับมอบหมายให้ปกป้อง จูลี่ (Claire Stansfield) นักโบราณคดีสาวที่เป็นพยานปากเอกในคดีโจรกรรมดาบของอเล็กซานเดอร์มหาราช
ระหว่างดูหนังเรื่องนี้หัวผมก็เกิดคำถามขึ้นมาว่า “อันว่าหนังแอ็กชันเนี่ย เรื่องไหนมันส์หรือไม่มันส์ มันวัดกันที่ตรงไหน?”