นี่อาจไม่เชิงเป็นรีวิวนะครับ แต่ออกแนวรำลึกความหลังมากกว่า 5555
นี่อาจไม่เชิงเป็นรีวิวนะครับ แต่ออกแนวรำลึกความหลังมากกว่า 5555
ศาสตราจารย์ถังหยุนหลง (จ้าวเหวินจั๋ว, Vincent Zhao) กับลูกสาวที่ชื่อว่า ถังหนิง (สวีเจียว, Xu Jiao) ได้เดินทางมายังเขาบู๊ตึ๊งเพื่อร่วมงานประลองที่ 500 ปีจะมีครั้ง แต่หยุนหลงก็ยังมีเป้าหมายอื่นครับ คือมาตามหาสมบัติในตำนาน 7 ชิ้น ด้วยความหวังว่ามันจะสามารถช่วยถังหนิงให้หายจากโรคประหลาด แต่ก็แน่นอนว่ากว่าเขาจะหามันเจอ ก็ต้องพบกับอุปสรรคสารพัดตามสูตรนั่นแหละ
สก็อต วอสส์ (Kevin James) ครูสอนชีววิทยาที่หมดไฟและใช้ชีวิตไปวันๆ แต่แล้วทุกสิ่งก็มีอันเปลี่ยนไปเมื่อเขาทราบว่าโรงเรียนกำลังถูกตัดงบและเพื่อนร่วมงานของเขาอย่างมาร์ตี้ (Henry Winkler) กำลังจะตกงาน แล้วไหนจะโครงการดนตรีของนักเรียนกำลังจะถูกยุบอีก เขาเลยเอ่ยปากต่อหน้าที่ประชุมว่าจะหาเงินมาช่วยโรงเรียนให้ได้ และวิธีหาเงินของเขาก็คือการไปลงสนามนักสู้ใต้ดิน แล้วความสนุกก็เริ่มต้นตรงนั้นล่ะครับ
มาครับ ไล่จัดให้ครบจะได้จบเป็นชุดๆ ไป สำหรับภาคนี้ซึ่งถือเป็นภาคที่ 4 ของ Lake Placid ที่จั่วชื่อไว้ว่าตอนสุดท้าย (The Final Chapter) ซึ่งมาบัดนี้เราก็ตระหนักได้แล้วครับว่ามันไม่เคยเป็นจริงเล้ยยยยย ไม่รู้กี่เรื่องแล้วที่บอกว่า Final Final แล้วมันก็จะมีภาคต่อตามมาประจำ
เรื่องนี้สร้างโดยค่าย The Asylum ครับ ชื่อนี้โผล่มาทีไรก็ต้องเตรียมใจไว้ล่วงหน้า 5555 แต่อาจเพราะผมเตรียมใจไว้ก็ได้ครับ เลยรู้สึกว่าหนังมันก็ดูแก้เบื่อได้อยู่นะ
อีกหนึ่งสารคดีที่ดูแล้วสนุก รู้สึกว่ามันชวนติดตามมากกว่าที่คิดไว้ครับ
ชายคนหนึ่ง (Mel Gibson) กำกลังขับรถหนีการไล่ล่าของตำรวจอยู่ตรงแถวๆ ชายแดนอเมริกา-เม็กซิโก แล้วสุดท้ายเขาก็จนแต้มครับ โดนตำรวจเม็กซิโกจับไปเข้าคุก – ที่ดูเป็นเหมือนชุมชนแออัดมากกว่า -แล้วเขาก็ต้องพยายามหาทางอยู่ในนั้นให้รอด รวมถึงต้องหาทางออกจากที่นั่นให้ได้
เจเรมี โคลแมน (Josh Duhamel) นักดับเพลิงที่เป็นพยานในคดีฆาตกรรม เขาเห็นชายชื่อ เดวิด ฮาแกน (Vincent D’Onofrio) ลงมือสังหารคนอย่างโหดเหี้ยม และพอดีที่เดวิดคือคนที่ทางการต้องการตัว และเจเรมีก็ได้รับการคุ้มกันให้เป็นพยาน แต่เมื่ออิทธิพลของเดวิดมีมากกว่าที่คิด เลยทำให้เจเรมีต้องหาทางเอาตัวรอดและสู้กลับเพื่อหยุดยั้งความโหดของเดวิดให้ได้
ถือเป็นหนังที่น่าเห็นใจเรื่องหนึ่งเลยครับ เพราะทุนสร้างระดับ $250 ล้าน แต่ทำเงินทั่วโลกได้เพียง $284 ล้าน (ในอเมริกาได้ไปแค่ $73 ล้านเท่านั้น) ขาดทุนเต็มประตู ซึ่งในแง่หนึ่งมันก็เข้าใจได้ล่ะครับ เพราะหน้าหนังมันไม่ได้แปลกแหวกอะไร มันคือสูตรคุ้นเคยที่ว่าด้วยตัวเอกจากดินแดนอื่น ไปกอบกู้สวัสดิภาพของอีกดินแดนหนึ่ง – เรียกว่าเห็นกันมาเยอะแล้ว
ผมข้ามการดูภาคนี้ไปด้วยความมึนครับ คือนึกว่าดูไปแล้ว แต่พอมาขยี้ตาดูชื่อชัดๆ อีกทีก็เพิ่งตระหนักว่ายังไม่ได้ดูนี่หน่า