หนังสัตว์โลกน่ารักที่ขึ้นคำโปรยว่าสร้างจากเหตุการณ์จริงซึ่งเดี๋ยวเราจะมาว่ากันอีกทีนะครับ ตอนนี้ขอเล่าเรื่องย่อก่อน
หนังสัตว์โลกน่ารักที่ขึ้นคำโปรยว่าสร้างจากเหตุการณ์จริงซึ่งเดี๋ยวเราจะมาว่ากันอีกทีนะครับ ตอนนี้ขอเล่าเรื่องย่อก่อน
ภาคนี้เชร็คต้องรับสืบทอดเป็นพระราชา แต่เขาไม่อยากเป็นครับ เลยต้องออกเดินทางไปตามหาชายหนุ่มนามว่าอาร์ตี้ให้มาเป็นพระราชาแทน และขณะเดียวกันเชร็คกำลังจะมีลูกครับ พี่เขาเลยว้าวุ่นสับสนที่กำลังจะได้เป็นพ่อคน และไหนจะต้องรับมือการกลับมาขอเจ้าชายชาร์มมิ่งจอมพยาบาทอีก
เพิ่งดูจบปี 3 ไปครับ ก็ขอรวบมาเล่าตามเคยว่า “ชอบ” เป็นซีรี่ส์แนวสืบจากศพที่สนุก ใช่ครับ มันออกแนวสนุกจริงๆ เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน ตัวละครมีชีวิตชีวา อันนี้ถือเป็นจุดเด่นของโชว์นี้เลยนะครับ ดาราแต่ละคนเหมาะกับบท คาแรคเตอร์ของพวกเขาชูรสให้กับเรื่องราวได้มาก
ก่อนเปิด 3 อหังการ์ เจ้าสุริยา – The Warlords ดูนั้นผมลืมตั้งหลักไปนิดนึงครับ ลืมไปว่าหนังน่าจะหนักไม่ใช่น้อยเพราะเป็นแนวสงครามว่าด้วยการฆ่าฟันล้างผลาญ ไหนจะมีเรื่องปมขัดแย้งระหว่างตัวละครอีก เลยทำให้พอดูไปสักพักก็รู้สึกไหล่ล้าบ่าหนักขึ้นมาจนได้
เคยไหมครับ ยามเราดูหนังสักเรื่องแล้วก็พบว่าเรารู้สึกไม่สนุกกับการดูหนังเรื่องนั้นเลยเนื่องจากมันมีอะไรบางอย่างที่เราไม่ชอบปรากฏอยู่ในนั้น เช่น ไม่ชอบมุกตลก ไม่ชอบเนื้อเรื่อง ไม่ชอบโทน หรือไม่ชอบตัวละครบางตัวที่ยิ่งดูยิ่งรำคาญ จนแทบจะหยุดดูหนังซะเดี๋ยวนั้น แต่ครั้นพอทนดูไปเกินครึ่งเรื่อง นอกจากความไม่ชอบจะค่อยๆ หายไปแล้ว มันยังกลายเป็นว่าเราชอบครึ่งหลังของหนัง ประมาณว่ามันโดนใจเราอย่างยิ่ง
วอลเตอร์ สแปร์โรว์ (Jim Carrey) ได้อ่านนิยายที่ชื่อว่า The Number 23 ซึ่งนิยายเล่มนี้มันมีหลายสิ่งที่พ้องกับชีวิตของเขา และยังทำให้เขาตระหนักว่าเลข 23 มีความเกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆ ในชีวิตเขาอย่างไม่น่าเชื่อ
The Bucket List หมายถึง “รายการที่อยากทำให้ได้ก่อนตายครับ” และหนังเรื่องนี้ก็มีเนื้อหาว่าด้วยชาย 2 คนที่พบว่าตัวเองเป็นมะเร็งและอาจอยู่ได้อีกไม่นาน ดังนั้นแทนที่จะต้องนอนรอความตาย ทั้งสองเลยตัดสินใจออกท่องโลก ไปตระเวนทำในสิ่งที่พวกเขาเขียนไว้ใน Bucket List ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ผมดูหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนที่มันออกฉายครับ แล้วก็เอามาดูซ้ำอยู่เป็นพักๆ (ก็คือถ้าดูภาคแรกเมื่อไรก็ต้องจัดภาคนี้ต่อท้ายทุกทีไป) แต่ผมก็ไม่เคยเขียนถึงเลย เหตุผลก็ง่ายๆ ครับ นั่นคือไม่รู้จะเขียนอะไรดี 555
ปีก่อนจัดเต็มความมันส์ไปแล้ว ปีนี้ดีกรีความสนุกอาจไม่เท่าคราวก่อน แต่ก็ชมผู้สร้างล่ะครับที่พยายามสรรหาเรื่องราวมาสานต่อ ซึ่งก็ยังถือว่าน่าสนใจอยู่ครับ (ขอเพียงเราไม่คาดหวังน่ะนะครับ)
แม้ภาค Endgame จะไม่ประสบความสำเร็จ แต่ก็ยังมีคนคิดทำภาคต่อของ Highlander อยู่ครับ ซึ่งไปๆ มาๆ ผมว่าประวัติการสร้างหนังเรื่องนี้ดูจะน่าติดตามกว่าตัวหนังจริงๆ ซะอีก