เอาจริงๆ ผมอาจไม่ถึงขั้นเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ Frasier นะครับ คือดูครบหมดทั้ง 11 ปีนั่นแหละ เพียงแต่ระดับความชอบความปลื่มอาจไม่มาก คือดูได้ เพลินๆ สนุกดี แต่ไม่ถึงขั้นประทับใจ
เอาจริงๆ ผมอาจไม่ถึงขั้นเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ Frasier นะครับ คือดูครบหมดทั้ง 11 ปีนั่นแหละ เพียงแต่ระดับความชอบความปลื่มอาจไม่มาก คือดูได้ เพลินๆ สนุกดี แต่ไม่ถึงขั้นประทับใจ
ผมเปิดหนังเรื่องนี้แบบดูเอามันส์ครับ ไม่ได้คิดอะไรก่อนดูเลย คือกะดูไปทำงานไป ไม่ได้อยากดูอะไรหนักๆ ซึ่งว่าตามจริงตัวหนังมันก็มาในโทนเบาๆ นี่แหละครับ แต่ยอมรับว่าระหว่างที่ผมดูเนี่ย ความสนุกของผมมันเหมือนถูกเบรคเป็นพักๆ
ตอนแรกผมนึกว่าตัวเองเคยดูเรื่องนี้มาแล้ว แต่น่าจะเคยดูแค่ช่วงต้นๆ น่ะครับ เพราะจำเรื่องที่เหลือไม่ได้เลย แต่ก็เอาเถอะครับ ได้โอกาสดูก็จัดซะ
และนี่คือลำดับที่ 13 ของหนังชุดแฟรนไชส์ Mr. Vampire (ผีกัดอย่ากัดตอบ) ครับผม
หนังวัยรุ่นผสมอารมณ์ขันที่ยุคนั้นตอนหนังออกฉายนี่รู้สึกว่าหนังแนวนี้มีเยอะนะครับ เยอะจนแอบรู้สึกว่ามันเกร่อเลยล่ะ แตพอมองมาตอนนี้กลับรู้สึกคิดถึงหนังแนวนี้จังเลยแฮะ ของใหม่ๆ ก็ไม่ค่อยมีออกมา ก็ต้องเอาของเก่ามาดูซ้ำน่ะนะครับ (เพราะเรื่องนี้จัดตั้งแต่ตอนเข้าโรงครับ)
เกิดเหตุสังหารโหดในอาคารแห่งหนึ่ง โดยผู้ลงมือได้ใช้ปืนฆ่าคนไปถึง 11 ศพก่อนจะลงมือปลิดชีพตนเอง แล้วหนึ่งในภรรยาของผู้ตายก็ได้เป็นโจทก์ฟ้องบริษัท วิสเบิร์ก ไฟร์อาร์ม ที่ผลิตปืนที่ใช้ในการสังหารโหดครั้งนี้โดยมี เวนเดล รอห์ (Dustin Hoffman) เป็นทนายฝ่ายโจทก์ แต่ฝ่ายบริษัทปืนที่โดนฟ้องก็ไม่ยอมง่ายๆ ครับ ได้ว่าจ้างให้ แรนกิน ฟิตช์ (Gene Hackman) มาช่วยทำทุกวิถีทางที่จะทำให้ลูกขุนยอมหันมาช่วยฝ่ายของตน
เรื่องนี้ดูแบบไม่คาดหวังครับ และจริงๆ ก่อนดูก็ได้ยินคำบ่นมามากกว่าคำชม ครั้นพอได้ดูก็รู้สึกว่าหนังไม่ได้เลวร้ายอะไรครับ ดูเพลินๆ ดูง่ายๆ สนุกดี เพียงแต่หลายๆ อย่างยังดีได้อีกเท่านั้นแหละ
เรื่องนี้ใช้ได้เลยครับ ดูสนุกกว่าที่คิด แม้จะไม่ถึงกับเด็ดมากมาย แต่ก็ดูเอามันส์ เอาระทึกได้อยู่
เอามาดูต่อให้จบครบชุดครับ สำหรับ Atlantis: Milo’s Return ภาคต่อของ Atlantis: The Lost Empire
ท่านที่ตามอ่านรีวิวของผมมาคงทราบดีครับว่าผมชอบหนังสยองแบบรวมเรื่องสั้น และถ้าพูดถึงหนังแนวนี้แล้วค่ายหนังที่ถือเป็นตำนานเลยก็คือ Amicus Productions ครับ