ตามปกติลุง John Carpenter ของผมแกจะขยันทำหนังแนวไซไฟเขย่าขวัญออกมา ก็แปลกดีครับที่จู่ๆ พี่ท่านมาทำหนังตลกแบบนี้ แต่กระนั้นมันก็ยังเป็นไซไฟอยู่ดี
ตามปกติลุง John Carpenter ของผมแกจะขยันทำหนังแนวไซไฟเขย่าขวัญออกมา ก็แปลกดีครับที่จู่ๆ พี่ท่านมาทำหนังตลกแบบนี้ แต่กระนั้นมันก็ยังเป็นไซไฟอยู่ดี
นี่ก็เป็นหนังสยองเรื่องเก่าอีกเรื่องที่ได้มาเข้าฉายในบ้านเราด้วยนะครับ เป็นแนวฆาตกรโรคจิตไล่ฆ่าคนอีกนั่นแหละ
หนังตลกแนวขึ้นโรงขึ้นศาลเรื่องของ 2 หนุ่มบิลลี่ (Ralph Macchio) กับ สแตน (Mitchell Whitfield) ที่โดนจับด้วยข้อหาฆ่าคนตาย ทั้งๆ ที่พวกเขาไม่ได้ทำ งานนี้ก็ไม่รู้จะทำไงล่ะครับ เงินจ้างทนายก็ไม่มี เลยต้องตามญาติของพวกเขามา นั่นคือ วินนี่ (Joe Pesci) ทนายที่เพิ่งสอบเนติฯได้ หลังจากสอบตกมา 6 ปี อืมม์ ….. มันจะรอดกันมั้ยล่ะครับงานนี้
กล่องรูบิคมันไม่ยอมสงบครับ ภาค 2 นี่น่าจะสยบกล่องไปได้แล้วนะ แต่มันยังหน้าด้านกลับมาได้อีก
หนัง Action สุดมันส์ พลิกความคาดหมาย(แย่ๆ)ของผมอีกเรื่องหนึ่งครับ เรื่องของจอห์น คัตเตอร์ (Wesley Snipes) อดีตตำรวจที่ต้องมาเผชิญกับวายร้ายจอมโรคจิต ชาร์ลส เรน (Bruce Payne) ที่ยึดเครื่องบินทั้งลำเอาไว้ จอห์นจึงต้องทำทุกวิถีทางที่จะกำจัดมันและขณะเดียวกัน เขาต้องช่วยผู้โดยสารอีกนับร้อยชีวิตด้วย
เอาหนังทีวีเก่าๆ มาแนะนำกันนะครับ ก็ด้วยอารมณ์รำลึกอดีตอีกตามเคยล่ะครับ สมัยก่อนตอนที่ค่าย CVDI ยังเรืองอำนาจน่ะนะครับ (เพราะตอนนี้อำนาจเริ่มหดหายแล้วครับ ลิขสิทธิ์หนังมากมายหลุดไปอยุ่กับค่าย Pacific และ Catalyst หมดแล้ว) แต่สมัยก่อนตอนที่เขายังผูกขาดอยู่นั้น หนังสารพัดก็ไหลมาที่นี่ที่เดียวครับ หนังใหญ่หนังเล็กก็ได้ดูจากที่นี่แหละ ซึ่งสมัยนั้นตอนเด็กๆ ผมก็ไม่รู้หรอกครับ เอามาดูหมด หนังโรงหนังทีวี มีเกรดไม่มีเกรดไม่รู้เท่าไหร่ ก็ดูๆๆๆ ไป ด้วยความสนุกสนาน
ถ้าพูดกันถึงผู้กำกับที่ทำหนังไตรภาคไว้หลายชุดนี่ เห็นทีจะต้องมีชื่อพี่ Robert Rodriguez เข้าไปร่วมด้วยอย่างแน่นอนครับ เพราะพี่ท่านทำไตรภาคไว้สามอันแน่ะ อันแรกก็เรื่องนี้ครับ อีกอันก็ From Dusk Till Dawn (ภาคแรกแกกำกับ ส่วนภาคอื่นปล่อยให้คนอื่นทำไป) และสุดท้ายก็ Spy Kids ซึ่งแต่ละอันก็มีความสนุกและความแปลกแตกต่างกันไปครับ แต่วันนี้ขอพูดถึงเรื่องนี้ก่อนแล้วกัน
จริงๆ แล้วหนังเรื่องนี้ควรจะเป็นหนังที่ดีมากเรื่องหนึ่ง แต่ก็เปล่าครับ … ไม่ได้แปลว่าหนังเรื่องนี้ห่วยนะครับ คือหนังมันก็โอเคน่ะครับ เพียงแต่ว่ามันยังไม่เข้าที่เข้าทางนักเท่านั้นเอง
ไม่รู้ยังมีคนจำหนังเรื่องนี้ได้หรือเปล่านะครับ (จริงๆ น่าจะน้อยน่ะแหละ) คือสมัยก่อน (หลาย 10 ปีก่อนเลยล่ะครับ) ยุคนั้นค่ายหนังเล็กๆ มักจะเอาหนังที่เมืองนอกเขาทำออกมาเป็นวีดีโอ มาเข้าโรงใหญ่
ถ้าอยากดูหนังขึ้นโรงขึ้นศาลที่น่าติดตามจัดๆ เข้มข้นสุดๆ และรวมดาราแบบเทพๆ ล่ะก็ A Few Good Men จัดว่าตอบโจทย์ได้อย่างดีเลยครับ