อีกหนึ่งหนังที่ว่าด้วยกลุ่มเจ้าหน้าที่ภาคสนามของอเมริกากับปฏิบัติการในตะวันออกกลางเพื่อล่าตัวผู้ก่อการร้าย ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่เดือดระอุ ให้ว่าสั้นๆ ตรงๆ ก็คือ “ดูได้เลยครับ ถ้าคุณชอบหนังสไตล์นี้”
อีกหนึ่งหนังที่ว่าด้วยกลุ่มเจ้าหน้าที่ภาคสนามของอเมริกากับปฏิบัติการในตะวันออกกลางเพื่อล่าตัวผู้ก่อการร้าย ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่เดือดระอุ ให้ว่าสั้นๆ ตรงๆ ก็คือ “ดูได้เลยครับ ถ้าคุณชอบหนังสไตล์นี้”
สำหรับผมนี่การเขียนถึงหนังนี่เป็นความสุขชนิดหนึ่งเลยครับ แม้หลังๆ มานี่ผมจะบ่นมากหน่อยจนเหมือนคนแก่ก็เถอะ แต่มันก็ยังสุขใจครับ เหมือนกับแม้ว่าตอนดูมันจะอดหยิบโน่นหยิบนี่มาคิดไม่ได้ จนเหมือนเป็นคนคิดมาก ไม่ผ่อนคลายไปกับหนัง แต่เอาเข้าจริงๆ การดูหนังซักเรื่องจบผมจะมีอารมณ์ดีในทันที ยิ้มได้ครับ
นี่ถือเป็นหนังที่มีอิทธิพลต่อชีวิตผมมากเรื่องหนึ่งเลยครับ เพราะมันเป็นหนังเรื่องแรกสุดที่ผมเริ่มดูเพื่อวิจารณ์อะไรอย่างจริงจัง ความเจ้าความคิดชอบหยิบโน่นหยิบนี่มาคิดก็เริ่มจากเรื่องนี้นี่แหละ เพราะเรื่องนี้มันว่าด้วยเรื่องของ Conspiracy Theory หรือ ทฤษฎีสมคบคิด
อีเว่น เฮอริซั่น คือชื่อของยานที่สุดไฮเทคซึ่งมีระบบวอร์พ หรือ เดินทางเร็วกว่าแสงโดยการสร้างประตูทะลุมิติขึ้นมา แต่จากการทดลองระบบนี้ ปรากฎว่ายานดันเข้าประตูแล้วหายไปเลยครับ ไม่มีใครทราบว่ามันไปไหน
หนังเรื่องนี้เคยเข้าฉายในโรงบ้านเราด้วยนะครับ และถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าคนดูส่วนมากจะไม่ค่อยชอบ ดูแล้วก็รู้สึกเฉยๆ นะครับ หนังเลยไม่ค่อยดังเท่าไหร่ ส่วนผมก็ดูหนังตอนออกเป็นวีดีโอแล้วน่ะครับ พอดูเสร็จก็ไม่มีอะไรมาก แค่ตามซื้อมาครอบครองในบัดดล
หลังจากภาคแรกโกยเงินแล้วนะครับ ทาง Warner Bros ก็อยากทำภาคต่อในทันที แต่ผู้กำกับ Joe Dante เจ้าเก่าก็บอกปัดไป เนื่องจากเขารู้สึกว่า “อิ่ม” กับเรื่องราวของเกรมลินส์ไปแล้ว เลยทำให้โปรเจคท์ภาคต่อเดินหน้าโดยไม่มี Dante และมีการทาบทามผู้กำกับมากหน้าหลายตนมาทำ ในขณะที่พล็อตก็มีหลายแบบ ตั้งแต่จับพวกเกรมลินส์ไปอาละวาดที่ลาสเวกัส ไปจนถึงให้มันบุกดาวอังคาร
แรนดัล เพลท์เซอร์ (Hoyt Axton) คือนักประดิษฐ์ผู้ชอบเดินทางไปขายของที่เขาคิดค้นขึ้นมาได้ ระหว่างการเดินทางครั้งหนึ่ง เขาได้แวะไปยังร้านขายของแปลกๆ แห่งหนึ่ง และสถานที่นั้นก็มีของประหลาดมากมาย แต่เขาเตะตาของอยู่ชิ้นหนึ่ง … ต้องบอกว่าตัวนึงถึงจะถูก มันคือ ม็อกไกว เจ้าตัวเล็กๆ ขนปุยที่น่ารักและน่าเลี้ยง เขาไม่รอช้าที่จะซื้อไปฝาก บิลลี่ (Zach Galligan) ลูกชายวัยรุ่นของเขา
ยอมรับเลยครับว่าตอนดูหนังไปได้ครึ่งเรื่อง ความคิดที่ผุดขึ้นในใจคือ “สงสัยเราจะไม่เขียนอะไรเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้แฮะ” เพราะรู้สึกเฉยๆ น่ะครับ ถ้าให้จำกัดความก็คงต้องบอกว่าไม่แนว ไม่รู้สึกปิ๊งปั๊งอะไรกับตัวหนังเท่าไร
หลังจากภาคที่แล้ว บริษัทโดนปิดไป เนื่องจากการปราบเจ้าโกเซอร์งวดก่อนมันถล่มเมืองไปเยอะครับ พวกนักปราบผีของเราเลยโดนฟ้งเรียกค่าเสียหายจนเจ๊งบ๊งกันไป แต่แล้ว 5 ปีต่อมาพวกเขาก็กลับมาอีกครั้ง เพราะเริ่มมีความชั่วร้ายก่อตัวขึ้นใต้กรุงนิวยอร์ค มันคือเมือกสีชมพูที่สามารถโต้ตอบอารมณ์ต่อคนได้ และสามารถทำให้คนคิดชั่วทำชั่วได้สารพัดหากไปสัมผัสมันเข้าล่ะ
ดร.ปีเตอร์ เวงแมน (Bill Murray), ดร.เรย์มอนด์ สแตนซ์ (Dan Aykroyd) และ ดร.อีกอน สเปงเลอร์ (Harold Ramis) คือ 3 นักวิทยาศาสตร์ผู้คิดค้นเครื่องมือจับผีขึ้นมาได้ และเปิดเป็นบริษัทรับจ้างปราบผีทั่วราชอาณาจักร ซึ่งก็ได้รับความนิยมอย่างมหาศาลเพราะผีโผล่มาให้ปราบเพียบไปหมด