บิลล์ นักจิตวิทยาสายอาชญากรรมคนหนึ่ง (Jeff Fahey) ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ จนต้องเสียแขนไป แต่โชคดีที่วิทยาการตัดต่อสร้างเนื้อเยื่อก้าวไกลจนในที่สุดบิลล์ก็ได้แขนข้างใหม่ที่ใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม
บิลล์ นักจิตวิทยาสายอาชญากรรมคนหนึ่ง (Jeff Fahey) ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ จนต้องเสียแขนไป แต่โชคดีที่วิทยาการตัดต่อสร้างเนื้อเยื่อก้าวไกลจนในที่สุดบิลล์ก็ได้แขนข้างใหม่ที่ใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม
เรื่องนี้เป็นผลงานล่าสุดบนดินแดนฮอลลีวู้ดผู้กำกับ John Woo ซึ่งก็น่าจะเป็นงานชิ้นสุดท้ายที่เขาทำให้กับที่นั่นด้วย (ยกเว้นเขาจะกลับไปอีก แต่ก็ดูเหมือนพี่ท่านจะกลับมาเอเชียแบบค่อนข้างถาวรแล้วตอนนี้) ซึ่งตัวหนังก็ไม่ถึงกับประสบความสำเร็จนักในแง่รายได้ครับ ลงทุน $60 ล้าน ได้คืนมา $96 ล้านจากทั่วโลก ก็พอได้ทุนบ้าง คนดูส่วนมากก็มีทั้งที่ชอบและเฉยๆ ก็ว่ากันไปน่ะนะครับ
ผมชอบคำโปรยของหนังนะครับ “เพื่อรับงานนี้เขาต้องบ้าพอ แต่เพื่ออยู่รอดในตำแหน่งนี้เขาต้องบ้ายิ่งกว่า” ก็ตรงกับเรื่องราวดีครับ
นักบินกองทัพนามว่าแดเนี่ยล แม็กคอมิค (Mel Gibson) อยู่ในสภาพใจสลายเมื่อรู้ว่าคนรักของตนประสบอุบัติเหตุจนถึงขั้นนอนโคม่า เป็นเจ้าหญิงนิทราที่ไร้สติและอาจจะเสียชีวิตในอีกไม่นาน ซึ่งพอดีว่าเพื่อนของเขากำลังจะทำการทดลองแช่แข็งมนุษย์ ทำให้แดเนี่ยลรับอาสาเป็นหนูทดลองให้ โดยเขาตกลงกับเพื่อนว่าให้แช่แข็งเขาไปเลย 1 ปี เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องทนเห็นคนรักตายจากไปตามที่แพทย์ได้วินิจฉัยไว้
ถือเป็นหนังที่ผมประสงค์รีวิวสั้นๆ แบบเข้าเป้าเลยนะครับ ว่าถ้าคุณชอบหนังเพลง, ชอบหนังตลกผสมโรแมนติก, ชอบดาราอย่าง Meryl Streep, Pierce Brosnan และ Amanda Seyfried หรือชอบหนังที่มีบรรยากาศงามๆ ถ่ายภาพสวยๆ ของริมทะเลที่มีน้ำใสกระจ่าง
หนังเก่าที่ดูสนุกในความทรงจำของผมอีกเรื่องครับ ว่าด้วย 3 สาวเพื่อนซี้แห่งเมืองอีสต์วิค อันประกอบด้วย อเล็กซานดร้า (Cher), เจน (Susan Sarandon) และ ซูกี้ (Michelle Pfeiffer) ที่กำลังเปลี่ยวเหงาขั้นรุนแรงครับ เพราะเมืองๆ นี้ก็ดูนิ่งๆ ไร้ชีวิตชีวา ผู้ชายดีๆ ที่มีเสน่ห์ก็ไม่ใคร่จะมีสักเท่าไร
นี่ก็เป็นนิยายอีกเรื่องที่ไม่ยาวนัก แต่ไม่ธรรมดาของ Dean Koontz นักเขียนนิยายลึกลับที่ผมชอบอีกคนครับ
เรื่องน่าสนใจในเล่มก็มีเรื่องของพระเจ้า, เรื่องมหัศจรรย์แห่งเลขเก้า, เรื่องรับน้อง, เรื่องของแม่เภา, เรื่องของไม้บรรทัด (ของแต่ละคน ที่ไม่เคยเท่ากัน) เหล่านี้เป็นต้น
พอดีช่วงนี้ทำการจัดของเตรียมย้ายร้านเลยมีโอกาสได้อ่านหนังสือเก่าหลายเล่ม หนึ่งในนั้นคือเล่มนี้ครับ ก็ยังอ่านสนุกไม่เสื่อมคลายครับ แต่ละข้อเขียนของคณอาจิกจริงๆ อายุอานามเกิน 10 ปีแล้ว แต่ยังกระตุกต่อมคิด ซึ่งหลายๆ อันก็กระตุกต่อมผมตั้งแต่อ่านรอบแรกเมื่อ 10 กว่าปีก่อนนั่นแหละ อย่างเรื่อง Listen และ Silent ที่ผมลงไปเมื่อวันก่อนเป็นต้น
ถ้าคุณชอบหนังสือแนว “ถามมาตอบไป” สไตล์ “คุยกับประภาส” ของคุณประภาส ชลศรานนท์ หรือ “คุยกับหนอน” ของคุณวินทร์ เลียววาริณ เล่มนี้ก็น่าจะอยู่ในอ้อมอกอ้อมใจได้ไม่ยาก