ตามปกติลุง Woody Allen จะทำหนังออกมาให้เราได้ชมกันปีละครั้งครับ ส่วนเรื่องนี้ทำออกมาตั้งแต่ปี 2015 แต่เพิ่งมีการออกแผ่นมาให้ได้ยลกัน (ไปๆ มาๆ ได้ดูหลัง Café Society ที่ฉายปี 2016 อีกนะนั่น)
ตามปกติลุง Woody Allen จะทำหนังออกมาให้เราได้ชมกันปีละครั้งครับ ส่วนเรื่องนี้ทำออกมาตั้งแต่ปี 2015 แต่เพิ่งมีการออกแผ่นมาให้ได้ยลกัน (ไปๆ มาๆ ได้ดูหลัง Café Society ที่ฉายปี 2016 อีกนะนั่น)
ตอนดูตัวอย่างก็มองว่านี่จะเป็นหนัง Home Alone เวอร์ชั่นโหดครับ นึกว่าเป็นเรื่องของเด็กที่อยู่บ้านกับพี่เลี้ยงเพียงลำพัง แล้วมีโจรบุกอะไรแบบนั้น แต่พอดูแล้วเนื้อเรื่องมันไม่ใช่แบบนั้นแฮะและไปๆ มาๆ มันก็ดูโหดกว่าที่คาดด้วย
หนังเรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกหลากอารมณ์ผสมๆ กันครับ แม้หน้าหนังจะว่าด้วยวันคริสต์มาส แต่ตัวหนังไม่ได้มาในแนว Feel Good ไม่ได้เต็มไปด้วยความแฮ้ปปี้แบบหนังเทศกาลทั่วๆ ไป แต่มันออกมาแนวตลกร้ายน่ะครับ
หลังจากภาคที่แล้วผูกเรื่องไปนอกโลกจนคนดูบ่นกันขรม (ขนาดผู้กำกับยังไม่อยากยอมรับหนังตัวเอง) Highlander III: The Sorcerer ก็กลับมาสานต่อตำนานโดยลืมเรื่องราวในภาค 2 ไปเลยครับ
ภาคแรกดังเลยมีการทำภาคต่อชื่อ Highlander II: The Quickening ออกมา แต่ผลลัพธ์ที่ได้เป็นคนละเรื่องกับภาคที่แล้วเลยครับ
Highlander ถือเป็นหนังที่ดูแล้ว “เท่ห์สุดๆ” ครับ ตัวเอกเป็นอมตะ ถือดาบเจ๋งๆ สู้กับพวกอมตะด้วยกัน พอปราบอีกฝ่ายได้ก็จะได้พลังเพิ่ม ฉากตอนได้พลังเพิ่มนี่ก็อลังดีแท้ๆ
บางครั้ง “เกียรติยศ” กับ “ความจริง” เป็นสิ่งที่ต้องแยกออกจากกัน
Bedtime Stories หนังแฟนตาซีน่ารักดูสนุกสไตล์ Adam Sandler โดยพี่ท่านมารับบท สกีตเตอร์ บรอนสัน ช่างซ่อมบำรุงประจำโรงแรม (ที่จริงๆ แล้วที่ดินผืนนั้นเคยเป็นของพ่อเขา)
2 วันก่อนที่ผมจะไปดูไอ้แมงมุมภาคใหม่ ผมได้ไปคลิ้กดู Honest Trailer ของภาคแรกมาครับ (Honest Trailer คือตัวอย่างแซวหนังเรื่องนั้นๆ โดยจะเอาจุดอ่อน ช่องโหว่ หรืออะไรที่มันดูตลกมาล้อในเชิงขำขัน… และส่วนใหญ่ที่เขาเอามาล้อ ก็จริงซะด้วย)
น่าจะถือเป็นหนังที่มีการรีบู๊ทเร็วที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์ครับ ของเก่าจบไปไม่ถึง 10 ปีก็มีของใหม่ออกมาให้ยลกันแล้ว